การเช่าบ้าน
(Renting Housing)
มีคนจำนวนมากอยู่ในฐานะที่ยังไม่อาจมีบ้านที่อยู่อาศัยของตนได้ จึงจำเป็นต้องเช่าเขาอยู่ไปก่อน เช่น คนหนุ่มสาวที่เพิ่งสำเร็จการศึกษา หรือ ผู้มีรายได้น้อยไม่อาจมีบ้านเป็นของตนเองได้หรือบางครั้งคนที่ย้ายมาจากต่างถิ่น ยังไม่แน่นอนว่าจะตั้งหลักแหล่งที่ใดแน่ ก็ต้องเช่าอยู่อาศัย ไปก่อน เป็นที่ทราบกันว่าในการเช่านั้นผู้เช่าจะได้รับประโยชน์จากการใช้ทรัพย์สินที่เช่า เท่านั้นไม่อาจมีกรรมสิทธิ์ใน ทรัพย์สินดังกล่าวได้ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้การใช้เงินเรื่องการเช่าที่อยู่อาศัยได้รับประโยชน์คุ้มค่าผู้เช่าก็ควรพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ โดยรอบคอบด้วย
ปัจจัยที่ควรคำนึงถึงในเรื่องการเช่า
เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องเช่าที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น บ้านเช่า หอพัก อพาร์ตเม้นต์ คอนโดมิเนียม ฯลฯ ควรจะได้พิจารณาคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
ทำเลที่ตั้ง (Location) สิ่งแรกที่ควรพิจารณาคือดูว่าทำเลที่ตั้งของที่อยู่อาศัยดังกล่าวที่เราจะเช่านั้น ตั้งอยู่ในทำเลใดมีความสะดวกสบายต่อการไปทำงานแค่ไหน ถ้าตั้งอยู่บนทำเลที่ใกล้สถานที่ทำงานก็จะสะดวก และประหยัด ค่าเดินทางได้มาก ในเรื่องทำเลนี้ควรดูถึงสิ่งแวดล้อมด้วยว่าเหมาะสมเพียงไร เช่น มีโรงเรียน ตลาด ร้านค้า สวนสาธารณะ อยู่ใกล้บริเวณนั้นหรือไม่
ค่าเช่า (Rent) ค่าเช่าที่ต้องจ่ายแพงหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้เช่าเป็นสำคัญ ถ้าเขามี รายได้สูงก็สามารถจ่ายค่าเช่าแพง ๆ ได้ อย่างไรก็ตามมีผู้ให้คำแนะนำว่า การจ่ายค่าเช่าทีเหมาะสมของคนเรานั้นไม่ควรจะมากกว่า ผ ของรายได้สุทธิที่ได้รับ เช่น มีเงินเดือนกลับ มาบ้านเดือนละ 12,000 บาท ก็ควรเช่าบ้านไม่เกินเดือนละ 3,000 บาท เป็นต้น การพิจารณาในเรื่องค่าเช่า ควรนำเรื่องทำเลที่ตั้งมาคำนึง ไปพร้อมกัน เช่น ถ้าบ้านเช่าอยู่ใกล้สถานที่ทำงาน ถึงแม้ค่าเช่าจะแพงไปบ้างก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับค่าน้ำมันรถที่เรา สามารถประหยัดได้ และคิดว่าคุ้มค่ากว่าแล้วก็ควรเลือกเช่าสถานที่ใกล้กว่านั้น
สิ่งที่มีให้ (Offerings) พิจารณาดูว่าห้องเช่า อพาร์ตเม้นต์ หรือบ้านที่เราเช่านั้นมีอะไรให้บ้าง เช่น ในบ้านหรือห้องพัก มีเฟอร์นิเจอร์ ให้ด้วยหรือไม่ หรือมีบริการที่เป็นสาธารณะ เช่น ที่จอดรถ สระว่ายน้ำ สโมสร บริการทำความสะอาด มีห้องบริการซักรีด หรือกำจัดขยะให้ด้วยหรือไม่ เป็นต้น
มีข้อแนะนำสำหรับผู้เช่าอพาร์ตเม้นต์ก่อนที่จะย้ายเข้าไปอยู่ว่า ควรมีการตรวจสอบให้แน่ใจในสิ่งเหล่านี้ เสียก่อน
A Checklist for renters
-
ราคาค่าเช่าเดือนละเท่าไร
-
จะต้องวางเงินมัดจำล่วงหน้าหรือไม่ จำนวนเท่าไร ค่าประกันของเสียมีไหม
-
จะต้องจ่ายเงินพิเศษเพิ่มเติมหรือไม่สำหรับการใช้แอร์ ตู้เย็น ทีวี หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ
-
มีห้องบริการซักรีด หรือร้านจำหน่ายอาหารหรือไม่
-
มีที่จอดรถ ลิฟต์ ห้องโถงรวม ด้วยหรือไม่
-
ระบบป้องกันอัคคีภัย และความปลอดภัยเป็นอย่างไร
-
ระบบไฟ ปั๊มน้ำ โทรศัพท์ ท่อแก๊ส อยู่ในสภาพใช้ได้ดี
-
ประตูหน้าต่าง กระจก อยู่ในสภาพเรียบร้อยดี
-
สภาพแวดล้อมภายนอกดีพร้อม ทางเดิน สนามหญ้า ดูสะอาดตา และไม่มีเสียงอึกทึกรบกวนจากเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน
-
ควรอ่านสัญญาเช่าให้ละเอียด และสอบถามให้แน่ใจทุกข้อจึงค่อยเซ็นสัญญาเช่า
สัญญาเช่า (The rental agreement) สัญญาเช่าเป็นสัญญาต่างตอบแทนโดยผู้ให้เช่า (Lessor) ตกลงให้ผู้เช่า (Lessee) ได้ใช้หรือ ได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินที่เช่านั้น ในชั่วระยะเวลาหนึ่ง โดยผู้เช่าตกลงจะให้เช่าเพื่อการนั้น ตามสัญญาเช่าผู้เช่ามีเพียงสิทธิ ที่จะได้ใช้หรือ ได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินที่เช่านั้น แต่ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินดังกล่าว และผู้เช่ามีหน้าที่ที่จะต้องชำระค่าเช่าตามสัญญา ส่วนใหญ่ผู้เช่า ก็มีหน้าที่ที่จะส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าในสภาพอันซ่อมแซมดีแล้วให้แก่ผู้เช่า
|