Home » ออกแบบตกแต่ง บ้านและสวน » คืนความสดใสให้บ้าน

การบริหาร/ความรู้ทั่วไป

Web Design by Softbiz+


ว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014

 
คืนความสดใสให้บ้าน

           บ้านทุกหลังอยู่ไป ๆ สักวันก็ต้องเก่าและทรุดโทรมไปตามกาลเวลา การปรับปรุงหน้าตาของบ้านให้ดูใหม่และทันสมัยอยู่เสมอก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้านนั้นน่าอยู่ยิ่งขึ้น “บ้านและสวน” มีวิธีปรับโฉมบ้านเก่าให้ดูใหม่และมีชีวิตชีวามาฝากกัน ดังนี้

1. ขยับสับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์

      แม้บ้านเดิมจะสวยอยู่แล้ว แต่อยู่นานไปอาจรู้สึกเบื่อได้เพราะความจำเจลองขยับสับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์เป็นครั้งคราว ทั้งจากภายในห้องหรือสลับข้ามห้องก็จะได้มุมใหม่ในพื้นที่เดิมแล้ว โดยมีไอเดียดังนี้

  • คิดให้ต่าง ในเมื่อจะเปลี่ยนบรรยากาศทั้งที ก็ต้องทำให้รู้สึกแตกต่างจากกรอบของความคุ้นเคยปกติ ให้คิดว่าการแต่งบ้านไม่มีข้อจำกัด อย่างเฟอร์นิเจอร์ที่เคยซื้อมาเป็นชุดเดียวกัน ก็ไม่จำเป็นต้องวางด้วยกันตลอดไป อาจลองวางสลับกันหรือย้ายที่บ้าง เพียงแต่จัดวางให้ดูเข้ากันได้ก็ดูน่าสนใจขึ้นแล้ว
  • เปลี่ยนการใช้งาน การใช้ชีวิตในบ้านบางอย่างใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นอย่างมุมทำงาน มุมอ่านหนังสือ หรือมุมดื่มกาแฟที่ใช้เพียงโต๊ะ เก้าอี้ หรือเบาะรองนั่ง ซึ่งย้ายได้ง่าย อาจยกย้ายเปลี่ยนมุมนั่งก็ช่วยแก้เบื่อได้บ้าง
  • สร้างอารมณ์ ถ้าไม่สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักได้ใหม่ อาจลองเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งชิ้นเล็กแทน อย่างแจกัน โคมไฟ รูปภาพ หรือเปลี่ยนการจัดดอกไม้ แม้จะดูเล็กน้อย แต่เชื่อเถอะว่า คุณจะรู้สึกดีทั้งระหว่างจัดและอดภูมิใจไม่ได้เมื่อห้องดูสวยงามขึ้น

2. รูปเก่าในกรอบใหม่

     ความทรงจำในภาพที่เก็บอยู่ในกรอบรูปอาจเนิ่นนานจนกลืนหายไปกับกาลเวลา ลองเปลี่ยนกรอบรูปใหม่หรือนำมาเปลี่ยนสีให้น่าดูขึ้น อาจใช้กรอบรูปเปล่านำไปติดบนผนังวอลล์เปเปอร์ลายสวยแทนรูปภาพ หรือจะนำวอลล์เปเปอร์มาใส่กรอบแล้วนำไปมาวางสลับกับรูปภาพ ก็ช่วยให้ผนังที่แขวนรูปเยอะมีที่ว่างและดูน่าสนใจขึ้น

3. ปะติดแต้มพื้นผิว

     แม้ตู้โต๊ะหรือของตกแต่งในห้องจะเป็นชิ้นเดิมแต่สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้แบบไม่ยาก เพียงใช้วัสดุแผ่น เช่น กระดาษห่อของขวัญ โปสเตอร์ เศษวอลล์เปเปอร์ หรือแผ่นไม้วีเนียร์ นำมาปะติดบนพื้นผิวเดิม หรือวางไว้ใต้กระจกหน้าท็อปโต๊ะก็ดูสวยงามน่าใช้มากขึ้น หรือใช้เทคนิค Stencil ซึ่งเป็นการทำลวดลายด้วยแม่พิมพ์ ที่ใช้วัสดุอะไรก็ได้มาเป็นแม่พิมพ์ เช่น ใบไม้หน้าบ้านก็นำมากลิ้งกับหมึก เป็นแม่พิมพ์ไปปั๊มบนพื้นผิวต่าง ๆ ได้แล้ว

4. ใช้ผ้าแต่งบ้าน

       ลองสังเกตดูว่า ภายในบ้านมีส่วนที่ใช้ผ้าเป็นองค์ประกอบอยู่หลายจุด ทั้งผ้าปูโต๊ะปลอกหมอน เบาะรองนั่ง และผ้าม่าน ซึ่งเปลี่ยนได้ไม่ยากเลย อาจทำสต๊อกผ้าปูโต๊ะ ปลอกหมอนไว้ 2–3 ชุด คอยสลับสับเปลี่ยนให้ห้องดูไม่จำเจ แต่หลายคนมักเลือกไม่ถูกว่าจะใช้ผ้าอย่างไร ลองมาดูการเลือกผ้าให้เหมาะกับการใช้งานและหลักการเลือกผ้าให้เข้ากับห้องกันการเลือกใช้ผ้าเพื่อการตกแต่ง

       ในท้องตลาดมีผ้าหลายชนิด นอกจากการเลือกลวดลายที่ถูกใจแล้ว ยังควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานด้วย แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ

  1. ผ้าบุเครื่องเรือน เช่น หุ้มโซฟาหรือทำเบาะรองนั่ง ควรใช้ผ้าเนื้อหนาที่ทนทานต่อการเสียดสีและคงรูปได้ดี
  2. ผ้าม่าน ควรเลือกผ้าที่มีน้ำหนักและทิ้งตัวหน่อย จึงสามารถจับจีบได้สวยงาม ถ้าจะให้ดีก็เลือกผ้าที่ซักแล้วไม่ต้องรีด เพราะถ้าเป็นผ้าม่านผืนใหญ่ก็คงเมื่อยมือไม่น้อยเลย
  3. เครื่องนอน ผ้าปูโต๊ะ และหมอนอิง ควรเลือกผ้าเนื้อนุ่มที่ให้สัมผัสสบายทนต่อการเสียดสี และสามารถซักในน้ำอุณหภูมิสูงเพื่อฆ่าเชื้อโรคได้

ที่มา  http://www.dailynews.co.th/article/950/13035