Home » บทความทั่วไป ความรู้น้ำท่วม » เทคนิคล้างรถ คราบเปรอะเปื้อน

การบริหาร/ความรู้ทั่วไป

Web Design by Softbiz+


ว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014

 
เทคนิคล้างรถ คราบเปรอะเปื้อน


ล้างคราบเปรอะเปื้อน

สยามธุรกิจ > ยานยนต์ [ฉบับที่ 1399 ประจำวันที่ 2013-05-04 ถึง 2013-05-07]

       หลังจากพารถคันโปรดไปตะลุยน้ำ ลุยฝุ่นมาอย่างเมามัน ก็ถึงเวลาล้างรถ ที่เต็มไปด้วยคราบเปรอะเปื้อนต่างๆ ซึ่งหลายคนคงส่ายหน้า เพราะงานล้างรถที่สุดมอมไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่อย่าเพิ่งถอดใจ ฉบับนี้ "สยามธุรกิจ" มีข้อแนะนำดีๆ จาก "ฟอร์ด ประเทศไทย" มาฝากในการทำความสะอาดรถง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง

  1. ขณะที่กำลังเดินทาง เมื่อโดนแป้งบริเวณกระจกหน้าอย่ารีบใช้ที่ปัดน้ำฝนฉีดล้างขณะขับรถ เพราะแป้งจะกระจายตัวเป็นคราบไปทั่วกระจก ซึ่งจะบดบังทัศนวิสัยขณะ ขับขี่และเป็นอันตรายอย่างมาก หากจำเป็น ให้ หาที่จอดข้างทางให้เรียบร้อย ใช้ที่ปัดน้ำฝนฉีดล้างให้สะอาดจึงออกเดินทางต่อ
     
  2. เมื่อสิ้นสุดการเดินทาง ควรล้างคราบแป้งออกโดยเร็วที่สุด เพราะแป้งที่แห้งและโดนแสงแดดนานๆ จะเกาะสีรถและทำให้ลอกได้
     
  3. กลับถึงบ้านต้องล้างฝุ่นละอองและคราบแป้งที่เกาะรถออกด้วยการฉีดน้ำสะอาดทั่วทั้งคัน โดยใช้น้ำยาสำหรับล้างรถโดยเฉพาะ เพราะน้ำยาประเภทอื่นอาจจะทำให้แว็กซ์เคลือบจางลงและเกิดรอยด่างแก่สีได้ หลังจากนั้น เช็ดแห้งด้วยหนังชามัวร์ ซึ่งสามารถซับน้ำได้ดี และไม่ทำให้รถเป็นรอย
     
  4. ควรเลือกแปรงขัดล้อรถให้ถูกต้อง หรือใช้ฟองน้ำขัดทำความสะอาด หลีกเลี่ยงแปรงลวดในการขัดล้ออัลลอย เพราะอาจทำลายผิวเคลือบบนล้อได้
     
  5. ไม่ควรฉีดน้ำแรงสูงเมื่อทำความสะอาดห้องเครื่องยนต์ เพราะแรงดันที่สูงอาจทำให้น้ำซึมเข้าไปในอุปกรณ์ไฟฟ้า คอยล์ หัวเทียน หรือกล่องควบคุมโดยตรงได้ ควรห่อหุ้มหรือหลีกเลี่ยงการฉีดน้ำบริเวณดังกล่าว
     
  6. ทำความสะอาดแผงหน้าปัดภายในด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ด แล้วตามด้วยผ้าแห้ง หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาที่ทำให้เกิดความเงาบริเวณบนคอนโซลเพราะจะเพิ่มการสะท้อนของกระจกหน้า
     
  7. ควรซ่อมสีโดยเร็ว กรณีที่สีกะเทาะหรือเฉี่ยวชน เพื่อป้องกันตัวถังเป็นสนิม,
     
  8. ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้หัวฉีดประหยัดน้ำ,
     
  9. ปิดก๊อกสายยางเมื่อไม่จำเป็น ถ้าเป็นไปได้ ควรจอดรถไว้บนสนามหญ้าแทนบนพื้นถนน เพราะนอกจากจะได้รถที่สะอาดแล้ว ยังได้รดน้ำสนามหญ้าไปในตัวด้วย
     
  10. และประการสุดท้าย ไม่ควรล้างรถในขณะที่ฝากระโปรงยังร้อนอยู่หรือจอดอยู่กลางแดดเพราะจะทำให้เกิดคราบน้ำ

        การล้างรถเองอาจจะดูเหนื่อยและยุ่งยากเสียเวลา แต่ลองมองในแง่ดี นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายและได้ออกกำลังกายแล้ว ยังมั่นใจได้ในเรื่องความสะอาดทุกซอกทุกมุม การดูแลรักษาที่ดี ทำให้สี และความเงาของรถยนต์ที่เรารักอยู่กับเราไปนานๆ และอย่าปล่อยคราบต่างๆ ทิ้งไว้นานเพราะมันอาจจะทำให้สีรถของคุณด่างก็เป็นได้

ที่มา http://www.siamturakij.com/main/news_content.php?nt=4&nid=1567