Web Design by Softbiz+
|
เว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014 |
การวางแผนย้ายบ้าน การแพ็คของและการขนย้าย อย่างมืออาชีพ |
หากพูดถึงเรื่องการย้ายบ้านทีไร ฟังดูเป็นเรื่องวุ่นวายน่าปวดหัวขึ้นมาทันที ทั้งเรื่องเก็บของย้ายออกจากบ้านเก่าจะต้องใช้กล่องแบบไหน ใช้กี่ใบถึงจะพอและจะเก็บของอย่างไรไม่ให้เสียหาย ไหนจะเรื่องขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ แล้วเมื่อไปถึงบ้านใหม่ยังจะต้องจัดของเข้าบ้านอีก เพียงแค่คิดว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว วิธีที่จะช่วยให้คุณเตรียมตัวตั้งแต่ก่อนย้ายบ้าน การบรรจุของลงกล่อง การขนย้าย ไปจนถึงการจัดของเข้าบ้านใหม่ เพื่อให้การย้ายบ้านของคุณเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญในการเตรียมตัวย้ายออกจากบ้าน ก็คือขั้นตอนการเก็บของลงกล่อง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไม่ยุ่งยากนัก แต่ก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากและหากเตรียมตัวในขั้นตอนนี้ดี จะช่วยให้ขั้นตอนที่เหลือทั้งการขนย้ายและการจัดของในบ้านใหม่ง่ายมาก ขั้นตอนขนย้าย วิธีการแพ็คกิ้งป้องกันก่อนการขนย้ายจาน ชาม ขวด แก้ว กรอบรูป ถ้าเป็นชนิดเดียวกัน ควรเก็บไว้ด้วยกัน โดยเรียงจากขนาดใหญ่ไปหาขนาดเล็ก หากวางซ้อนกันได้จะยิ่งช่วยประหยัดเนื้อที่ ถ้าเป็นวัสดุที่แตกหักง่าย ควรหาวัสดุมาห่อหุ้มป้องกันก่อนบรรจุลงกล่อง และหากในกล่องมีพื้นที่ว่างมาก ควรหาใส่เม็ดโฟมหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ยัดลงไปในกล่องให้เต็มพื้นที่ว่างด้วย เพื่อป้องกันของในกล่องกระแทกกันแล้วแตกระหว่างขนย้าย
เสื้อผ้า ควรเก็บเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ก่อน แล้วจึงเก็บชุดที่ใส่บ่อยๆ ไว้ทีหลัง การเก็บเสื้อผ้าโดยซ้อนกันหลายๆตัวแล้วพับหรือม้วนจะช่วยประหยัดเนื้อที่ได้มาก แต่สำหรับเสื้อผ้าที่ไม่สามารถพับได้ เช่น เสื้อสูทหรือชุดผ้าไหม อาจใช้กล่องทรงสูง เจาะรูด้านข้างที่ขอบบนของกล่อง แล้วสอดท่อพีวีซีเป็นราวแขวนไว้ด้านบน เพื่อทำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบเคลื่อนที่ เวลาเคลื่อนย้ายจะได้ไม่ยับหรือสามารถสั่งซื้อกล่องใส่เสื้อผ้าพร้อมราวแขวนสแตนเลท ขนาด 50x50x100 ซม.จากเราได้
หนังสือ ควรแยกตามขนาด แล้วบรรจุหนังสือที่มีขนาดใกล้เคียงกันไว้ในกล่องเดียวกันและควรจะวางหนังสือแนวตั้งเท่านั้น จะช่วยให้บรรจุได้มากขึ้น ไม่ควรหนังสือรวมกันมากๆในกล่องขนาดใหญ่ เพราะกล่องจะมีน้ำหนักมากทำให้เคลื่อนย้ายไม่สะดวก ควรใส่ให้แค่พอยกได้ เพื่อป้องกันกล่องแตกและกล่องอาจฉีกขาดระหว่างขนย้ายได้
รองเท้า ไม่ควรเก็บโดยการวางทับกัน เพราะจะทำให้รองเท้าเสียทรง หากมีกล่องใส่รองเท้า ควรเก็บลงกล่อง แล้วเขียนโน้ตติดข้างกล่องว่าเป็นรองเท้าแบบใดเพื่อความสะดวกในการค้นหาหรือหากไม่มีกล่องใส่รองเท้า อาจเก็บรวมกันในกล่องขนาดใหญ่และจัดรองเท้าที่มีขนาดใกล้เคียงกันวางนอนเข้าคู่เป็นชั้นๆ แล้วใช้กระดาษลูกฟูกหรือกระดาษลังกั้นระหว่างชั้น โดยใช้กระป๋องน้ำอัดลมเปล่าวางที่มุมของกล่อง เพื่อช่วยรับน้ำหนักไม่ให้กดลงบนรองเท้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า วิธีที่ดีที่สุดคือการบรรจุเครื่องใช้ไฟฟ้าลงในกล่องที่มาจากโรงงาน แต่หากไม่มี ควรถอดแยกชิ้นส่วนที่สามารถถอดได้ห่อด้วยพลาสติกกันกระแทก แล้วบรรจุชิ้นส่วนต่างๆของอุปกรณ์ชนิดเดียวกันในกล่องหรือถุงเดียวกันเพื่อความสะดวกในการนำไปประกอบภายหลัง ชนิดที่มีสายไฟควรม้วนเก็บให้เรียบร้อยหรือพันติดไว้กับตัวเครื่องระหว่างการขนย้าย ควรวางเครื่องใช้ไฟฟ้าในทิศทางปกติของการใช้งาน ไม่ควรวางนอนหรือเอียง เพราะตัวเครื่องอาจเกิดความเสียหายได้
เฟอร์นิเจอร์ไม้ เช่น ตู้ โต๊ะ หรือเตียง หากมีลิ้นชักหรือแผ่นกระจก ควรถอดแยกชิ้นส่วนเพื่อห่อต่างหาก ตู้ที่เป็นบานเปิดหรือบานเลื่อนควรใช้เชือกมัดหรือใช้เทปยึดบานประตูให้ติดกับตัวตู้ เพื่อความสะดวกขณะขนย้าย สำหรับของชิ้นใหญ่ที่ไม่สามารถห่อได้ทั้งหมด ควรติดกระดาษหรือพลาสติกกันกระแทกบริเวณที่เป็นเหลี่ยมหรือมุม แต่หากย้ายกับเรา ทางทีมงาน บิ๊ก มูฟ จะใช้ผ้านวมหนาห่อหุ้มป้องกันให้
กระจกหรือสิ่งของที่แตกหักได้ ควรใช้กระดาษลูกฟูกหรือพลาสติกกันกระแทกห่อหลายๆชั้น แล้วทำสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายระวังแตกไว้ในจุดที่เห็นได้ชัด และควรวางในแนวตั้งเท่านั้น
อุปกรณ์ต่างๆสำหรับการบรรจุสิ่งของกล่อง เป็นอุปกรณ์หลักในการบรรจุสิ่งของสำหรับการขนย้าย มีหลายขนาด หาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป ก่อนซื้อควรตรวจดูสภาพกล่องว่าอยู่ในสภาพดี ไม่ฉีกขาด ควรเลือกใช้กล่องหลายขนาดตามความเหมาะสมของสิ่งของ แต่อาจจะทำให้เปลืองเนื้อที่ในการขนย้ายเล็กน้อย และควรเลือกกล่องให้พอดีกับขนาดสิ่งของด้วย โดยกล่องขนาดมาตราฐาน มีขนาดดังนี้ 36x31x26 ซม. , 45x40x35 ซม. , 55x45x40 ซม.
พลาสติกกันกระแทก ใช้ห่อหุ้มสิ่งของที่แตกหักหรือป้องกันการขีดข่วนได้ดีมาก ด้วยลักษณะเป็นแผ่นบาง ทำให้สามารถดัดรูปทรงตามสิ่งของที่ห่อได้ทุกรูปแบบ หาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องเขียนทั่วไป แต่มีราคาค่อนข้างสูง ควรเลือกซื้อเป็นม้วนขนาดใหญ่ ซึ่งมีหน้ากว้างประมาณ 1.20 เมตร ราคาจะถูกกว่า เพื่อสามารถใช้ห่อของขนาดใหญ่ได้ทั้งชิ้นพลาสติกกันกระแทกมี 2 ชนิด คือ
1. ชนิด EPE เป็นโฟมที่มีความหนา 1มม. มีขนาด 1.3x1 ม. ,,0.6x5 ม. ,0.65x10 ม. 2. ชนิด Air bubble เป็นแบบที่มีฟองอากาศภายในทำให้กันกระแทกได้ดี มีขนาด 1.3x1 ม., 0.6x5 ม., 0.65x10 ม.
กระดาษลูกฟูก ส่วนที่เป็นลอนบนกระดาษลูกฟูกสามารถลดแรงกระแทกและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี มีทั้งแบบบางและแบบหนา โดยแบบบางสามารถงอหรือพับได้ เหมาะสำหรับห่อสิ่งของที่มีรูปทรงเหลี่ยม แต่ไม่เหมาะกับการห่อของที่มีรูปโค้งหรือกลมมน ส่วนแบบหนามีความแข็งแรง เหมาะกับการใช้รองขาโต๊ะ ตู้ เตียง ใช้ติดบริเวณเหลี่ยมมุมของสิ่งของที่อาจได้รับความกระทบกระเทือน หรืออาจใช้เป็นตัวแบ่งระหว่างชั้นในกล่องใส่ของก็ได้ แต่ข้อเสียนั้นคือ อาจฉีกขาดง่าย เมื่อเจอมุมสิ่งของ หรือ ขูดขีดแรงๆ ดังนั้นอาจหาฟิล์มพลาสติกใสมาพันอีกทีก็จะปลอดภัยขึ้น
กระดาษ เป็นอุปกรณ์ที่หาง่ายใช้คล่องที่สุด ใช้ห่อของชิ้นเล็กๆ ก่อนบรรจุลงกล่องเพื่อป้องกันการเสียดสีกันภายในกล่อง หรือจะขยำเป็นก้อนใช้กันกระแทกภายในกล่องได้ด้วย แต่สำหรับของที่ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์โดยเฉพาะภาชนะใส่อาหาร ภายหลังจากแกะห่อออกมาแล้วต้องทำความสะอาดอีกครั้ง เพราะหมึกจากหนังสือพิมพ์จะทำให้สิ่งของเป็นรอยหมึกพิมพ์สีดำ และอาจมีสารตกค้างที่เป็นอันตรายได้ หรือการกระดาษปรู๊ฟขาวสำหรับแพ็คโดยตรงก็ได้
พลาสติกฟิล์มใส ไม่ใช่พลาสติกชนิดเดียวกับที่ใช้ห่ออาหาร แต่เป็นพลาสติกที่ใช้สำหรับห่อเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งมีความหนากว่าเล็กน้อย ใช้งานสะดวก เพราะพลาสติกสามารถติดกันได้โดยไม่ต้องติดเทป เหมาะกับการห่อของที่เพียงแต่ไม่ต้องการให้เลอะ ไม่ต้องระวังเรื่องการแตกหัก เช่น เบาะ ฟูก ที่นอน หรือเก้าอี้อาร์มแชร์ หาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องเขียน หรือร้านขายพลาสติกทั่วไป มีทั้งแบบตัดแบ่งขายเป็นเมตรและขายแบบเป็นม้วนขนาดใหญ่ มีหน้ากว้างหลายขนาดให้เลือกส่วนใหญ่จะมีขนาดหน้ากว้าง 50 ซม.ยาว 300 ม.
ผ้า เป็นวัสดุที่มีความอ่อนนุ่ม ช่วยปกป้องพื้นผิวสิ่งของจากการสัมผัส หาได้ง่ายโดยใช้ผ้าที่มีอยู่ในบ้าน เช่น ผ้าม่าน ผ้าเช็ดตัว หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้า ผ้าผืนใหญ่อย่างผ้าคลุมเตียง อาจใช้ห่อชุดเครื่องนอนเช่นหมอน ผ้าที่สามารถเปื้อนได้ใช้รองพื้นในการขนย้าย ส่วนผ้าผืนเล็กๆใช้เป็นวัสดุห่อหุ้มก่อนบรรจุลงกล่องหรือรองระหว่างชั้นในกล่องได้เป็นอย่างดี
ลังไม้ เหมาะสำหรับบรรจุของชิ้นใหญ่ที่มีน้ำหนักมากและแตกหักได้ เช่น แจกันหรือรูปปั้นขนาดใหญ่ หาซื้อได้จากตลาดผลไม้โกดังสินค้าหรือร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านขายของเก่า แต่ถ้าของมีขนาดใหญ่มาก อาจใช้เศษไม้นำมาต่อเป็นลังแบบง่ายๆและก่อนจะบรรจุของลงไปในลังไม้ ควรหาวัสดุป้องกันการสัมผัสระหว่างสิ่งของกับลังไม้อีกชั้นหนึ่งด้วย
เชือก ใช้มัดของที่เป็นม้วน เช่น เสื่อ พรม และใช้มัดกล่องหรือหีบห่อให้แน่นหนา ป้องกันการเปิดระหว่างการขนย้าย และยังใช้เป็นหูหิ้วช่วยให้เคลื่อนย้ายได้สะดวกมากขึ้น ในการมัดควรใช้เชือกที่มัดได้แน่นแต่สามารถแกะออกง่าย และควรเลือกใช้เชือกให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น เชือกไนล่อน เหมาะกับของชิ้นใหญ่ มีน้ำหนักมาก และมีพื้นผิวแข็ง ไม่เกิดรอยจากการมัด เชือกฟางหรือเชือกผ้า ใช้กับของที่ไม่หนักมากและต้องระวังเรื่องรอยขีดข่วน
เทปกาว ใช้ผนึกฝากล่องหรือยึดระหว่างวัสดุห่อหุ้ม มีหลายชนิดและความหนาของแถบหลายขนาดให้เลือกใช้ ชนิดที่มีส่วนผสมของกาวมากจะมีความสามารถในการยึดติดดีกว่า แต่อาจทิ้งร่องรอยไว้บนผิววัสดุ หากใช้ในการติดที่ต้องสัมผัสกับผิวโดยตรง ควรเลือกชนิดที่สามารถลอกได้ง่ายและเพื่อความสะดวกในการใช้งาน เทปกาวที่มืออาชีพอย่างเราใช้นั้น มี 3 แบบ คือ
1 เทปกาวสีน้ำตาล ใช้ปิดกล่อง สิ่งของเครื่องใช้
2 เทปกาวสีแดง ใช้ติดเพื่อให้ทราบว่าเป็นสิ่งของที่แตกหัก เสียหายง่าย ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ 3 เทปกาวขาว หรือ เทปหนังไก่ ไม่ทิ้งร่องรอยไว้บนผิววัสดุ ใช้ติดสำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือของที่ต้องการแพ็คชั่วคราว นอก จากนี้เพื่อให้ทำการติดเทปได้ง่าย อยากแนะนำให้ใช้ม้วนตัดเทปกาว เพื่อความสะดวก และช่วยประหยัดเทปในการใช้งานด้วย มีหลากหลายหน้ากว้างที่เหมาะสมกับเทปแบบต่างๆ ตั้งแต่ขนาดหน้ากว้าง 1.5 - 2 นิ้ว
เมื่อรู้จักอุปกรณ์และเคล็ดลับครบแล้วก็ลงมือจัดเก็บขนย้ายตามขั้นตอนกันเลย จดก่อนเก็บก่อนที่ท่านจะเก็บของลงกล่องนั้น ลองทำรายการข้าวของดูก่อนว่า ของที่จะเก็บนั้นมีอะไรบ้าง ต้องใช้กล่องชนิดใด ขนาดเท่าใด ใช้จำนวนกี่กล่อง และลองแบ่งว่าในแต่ละกล่องมีอะไรบ้าง จะได้เตรียมหาอุปกรณ์บรรจุหีบห่อได้อย่างเพียงพอและเหมาะสม
ติดป้ายหรือเขียนไว้หลังเก็บหลังจากเก็บของลงกล่องเรียบร้อยแล้ว ควรเขียนรายการไว้ที่ข้างกล่อง ว่าภายในบรรจุอะไรบ้าง หากของชิ้นไหนเป็นของที่สามารถแตกหักเสียหายได้ ควรติดสัญลักษณ์ไว้เพื่อเตือนให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ
เก็บแยกห้อง
เมื่อแพ็คเสร็จสิ้นแล้ว ควรเก็บของโดยแยกตามแต่ละห้อง ช่วยให้การแยกของเมื่อขนย้ายเข้าไปยังบ้านใหม่ทำได้สะดวกมากขึ้นคุณควรติดสัญลักษณ์แถบสี หรือเขียนกำกับไว้ ติดไว้ที่ข้างกล่องและที่ห้องต่างๆ แยกตามห้อง วิธีนี้ทำให้ผู้ที่มาช่วยขนย้ายสามารถยกกล่องไปวางรวมกันในแต่ละห้องได้ง่าย โดยไม่ต้องเสียเวลามาถามคุณว่ากล่องใบนี้เอาไว้ที่ไหน ช่วยประหยัดเวลาและลดความวุ่นวายได้มากทีเดียว เมื่อจัดห่อเรียบร้อยก็ถึงคิวยก โดยมีข้อควรระวังดังนี้
การขนของขึ้นรถ เพื่อขนย้ายออก
|