Home » บทความทั่วไป ความรู้น้ำท่วม » เทคนิคสีเขียว เพื่อการประหยัดค่าใช้จ่ายสำนักงาน แบบกรีนๆ

การบริหาร/ความรู้ทั่วไป

Web Design by Softbiz+


ว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014

 
เทคนิคสีเขียว เพื่อการประหยัดค่าใช้จ่ายสำนักงาน แบบกรีนๆ

office.jpg

          ในยามที่เศรษฐกิจเป็นพิษ สุ่มเสี่ยงต่อการอยู่รอดขององค์กรอย่างทุกวันนี้ การช่วยกันรัดเข็มขัดขจัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อประหยัดงบของบริษัท น่าจะดีกว่าการที่บริษัทคิดตัดงบจากการจ้างมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ และไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ถือโอกาสนี้เปลี่ยนออฟฟิศให้ดำเนินการบนแนวทางสีเขียวไปซะเลย กับ 

วิธีการเซฟค่าใช้จ่ายออฟฟิศแบบกรีน ๆ

1. ทำเรื่องง่าย ๆ ให้เป็นนิสัย

       วิธีการนี้ดูออกจะพื้น ๆ บ้าน ๆ แต่นับได้ว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีในการก้าวเข้าสู่เส้นทางออฟฟิศสีเขียวร่วมกัน คิดง่าย ๆ ว่าออฟฟิศก็เหมือนบ้านของเรา อยู่บ้านเราประหยัดพลังงานยังไง(อาจจะมีแรงจูงใจเรื่องตัวเลขในบิลค่าไฟมาเกี่ยวข้อง) อยู่ออฟฟิศเราก็ทำแบบนั้นแหละ ปิดไฟเมื่อเลิกงาน หรือเวลาที่ออกไปข้างนอกพร้อม ๆ กัน เช่น ตอนพักเที่ยง ปรับอุณหภูมิแอร์ที่ 25 องศาเซลเซียส ตั้งโหมดประหยัดพลังงานบนคอมพิวเตอร์และเครื่องปริ๊นท์ให้เร็วขึ้นเมื่อเปิดเครื่องทิ้งไว้แต่ไม่ได้ใช้งาน หรือปิดไปเลยในช่วงกินข้าวกลางวัน ช่วงที่ต้องเข้าประชุมแบบมาราธอน เรื่องง่าย ๆ แบบนี้แหละที่จะทำให้เจ้านายของคุณตื้นตั้นใจจนหน้าบานเลยทีเดียวเมื่อเห็นตัวเลขที่ลดลงในบิลค่าไฟ

 2. ปริ๊นท์ให้น้อยลง

              ลด ละ เลิก การปริ๊นท์ทุกอย่างที่ขวางหน้า อาจจะติดตั้ง โปรแกรมปริ๊นท์ ที่ช่วยให้เราจัดการปริ๊นท์เฉพาะสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ชักชวนให้เพื่อนร่วมงานปริ๊นท์เฉพาะเอกสารที่จำเป็นจริง ๆ หรือหากอยากได้ข้อมูลบนหน้าเว็บเพจลองเปลี่ยนมาเซฟในรูปแบบของไฟล์ PDF เอาไว้อ่านในเครื่องแทน ค่ากระดาษรีมหนึ่ง ๆ ก็เกือบร้อยบาท ไหนจะค่าหมึกพิมพ์ ค่าไฟอีก หากเราช่วยกันปริ๊นท์เท่าที่จำเป็น ก็จะช่วยประหยัดเงินได้ไม่น้อย แถมยังมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีก

3. ใช้ร่วมกันก็ได้น

       หาพื้นที่เล็ก ๆ สักที่สำหรับเก็บอุปกรณ์สำนักงานที่สามารถใช้ร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเจาะรูกระดาษ ที่เย็บกระดาษ กรรไกร ซองจดหมาย หรือแฟ้มต่าง ๆ เมื่อใช้เสร็จแล้วก็นำกลับมาไว้ที่เดิม  ถ้าจะสั่งซื้ออุปกรณ์ใหม่ก็ขอให้แน่ใจว่าเราจำเป็นต้องใช้งานมันจริง ๆ

4. อัพของเก่าให้เป็นของใหม่

       เดี๋ยวนี้คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ ก็ขยันคลอดมายั่วกิเลสเราซะเหลือเกิน ยิ่งถ้าได้เห็นใครถอยมาใช้แล้ว แทบจะต้านทานแรงดึงดูดไม่ไหว แต่อย่าลืมว่าปัจจุบันนี้จำนวนขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาขยะล้นโลกไปแล้ว ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในฝันชิ้นใหม่ ลองหันกลับมาดูก่อนดีกว่ามั้ยว่าจริง ๆ แล้วโปรแกรมใดหรือสเปกเลอเลิศขนาดไหนที่จำเป็นต่อการทำงานของเรา อะไรที่สามารถอัพเกรดได้ก็อัพไปก่อนดีกว่า แม้จะเป็นการเปลี่ยนชิ้นส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าทุกคนคิดแต่จะเปลี่ยนใหม่ ๆ นอกจากจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายที่อาจจะยังไม่จำเป็นต้องเสียแล้ว ยังเป็นตัวการสั่งสมขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้เพิ่มขึ้นไปอีก

5. ใช้ประโยชน์จากพลังงานสะอาด

      ถ้าออฟฟิศเรากำลังจะมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือซ่อมแซมอะไรใหม่ นั่นเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีสีเขียวครั้งใหญ่ อาทิ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา เพื่อนำพลังงานสะอาดอย่างแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ หรือเปลี่ยนหลังคาเป็นแบบใส ๆ มีหน้าต่างเยอะ ๆ ให้แสงธรรมชาติลอดผ่านเข้ามาได้ วิธีนี้จะสามารถเซฟค่าไฟได้ในระยะยาวเลยทีเดียว หรือหากมีการตกแต่งภายในใหม่ ลองเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลดูสิ

6. ทำงานที่บ้าน

     อีกวิธีหนึ่งที่นอกจากจะกรีนแล้วยังช่วยลดรายจ่ายของออฟฟิศเราได้ไม่น้อยก็คือการทำงานอยู่กับบ้าน เพราะสามารถลดค่าใช้จ่ายสำนักงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ ถ้าจำเป็นต้องติดต่อกันเรื่องงานก็ใช้อีเมล หรือโทรศัพท์ยกหูคุยกัน หรือจะประชุมกันผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ก็ยังได้ หากสามารถวางแผนให้ปิดออฟฟิศได้หนึ่งวันในแต่ละสัปดาห์ ก็จะช่วยประหยัดได้มากเลยทีเดียว เช่นอาจจะเพิ่มจำนวนชั่วโมงการทำงานในวันจันทร์-พฤหัสฯ เป็นวันละ 10 ชั่วโมง ส่วนวันศุกร์ก็ปิดออฟฟิศแยกย้ายกันไปทำงานที่บ้าน เราเองก็ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง นั่งทำงานแบบกรีน ๆ อยู่ที่บ้านแทน

 แม้จะเป็นวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าเราร่วมด้วยช่วยกัน นอกจากจะเซฟค่าใช้จ่ายของออฟฟิศแล้ว ยังช่วยเซฟโลกใบนี้ได้ด้วยนะ

 ที่มา  http://www.green.in.th/node/1457