dailynews.co.th  วันเสาร์ ที่ 23 เมษายน 2554  คอลัมน์ กฎหมายรอบรั้ว

พื้นที่สาธารณะสำหรับเด็ก

“การเล่น” กับเด็กถือเป็นของคู่กัน  
          ว่ากันว่าการเล่นของเด็ก ไม่ใช่แค่เรื่องเล่น ๆ แต่เป็นเรื่องที่มีความสำคัญและมีคุณค่ามหาศาล เทียบได้กับการทำงานของผู้ใหญ่
    
          การเล่นช่วยให้เด็กได้พัฒนากล้ามเนื้อ พัฒนาด้านภาษา และเด็กยังได้เรียนรู้การที่จะปรับตัวอยู่กับคนอื่น นอกจากนี้เด็กยังได้เรียนรู้เรื่องจริยธรรม กฎเกณฑ์การอยู่ในข้อตกลงของสังคมร่วมกับผู้อื่นอีกด้วย
    
          การจัดให้มีสนามเด็กเล่น หรือพื้นที่สวนในหมู่บ้านจัดสรร จึงเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ต้องคำนึงถึง
    
          แต่สำหรับผู้ที่กำลังจะซื้อบ้านในหมู่บ้านจัดสรร ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะในพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 กำหนดชัด ให้ผู้จัดสรรที่ดินต้องกันพื้นที่ไว้เพื่อจัดทำสวน สนามเด็กเล่น หรือสนามกีฬา โดยคำนวณจากพื้นที่จัดจำหน่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 5
    
          โดยไม่ให้แบ่งแยกออกเป็นแปลงย่อยหลายแห่ง เว้นแต่เป็นการกันพื้นที่แต่ละแห่งไว้ไม่ต่ำกว่า 1 ไร่
    
          สำหรับกรณีการจัดสรรที่ดินขนาดใหญ่ (มีจำนวนแปลงย่อยตั้งแต่ 500 แปลง หรือเนื้อที่เกินกว่า 1 ไร่) ผู้จัดสรรที่ดินต้องกันพื้นที่ไว้เป็นที่ตั้งโรงเรียนอนุบาลจำนวน 1 แห่ง เนื้อที่ไม่น้อยกว่า 200 ตารางวา และต้องจัดให้มีพื้นที่สาธารณะดังกล่าวเพิ่มขึ้นทุก ๆ 500 แปลง หรือทุก ๆ 100 ไร่
    
         ถ้าไม่สามารถจัดตั้งโรงเรียนอนุบาลตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการได้ ก็ให้จัดตั้งโรงเรียนประเภทอื่น แต่ต้องเป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ
    
         และ ถ้าไม่สามารถจัดตั้งโรงเรียนประเภทอื่นได้ ก็ให้จัดทำบริการสาธารณะ หรือสาธารณูปโภคอื่น เช่น ศูนย์เด็กเล็ก สวน สนามเด็กเล่น สนามกีฬา เป็นต้น
    
         รู้อย่างนี้แล้ว ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้าน ไม่ใช่แค่ตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวบ้านเท่านั้น แต่ต้องตรวจสอบรายละเอียดพื้นที่สาธารณะของหมู่บ้านด้วย ว่ามีพื้นที่สวน สนามเด็กเล่น สนามกีฬา หรือโรงเรียน เหมือนที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่
    
         เพราะการเล่นถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเด็ก ๆ ซึ่งถือว่าเป็นสมาชิกคนสำคัญอีกคนหนึ่งของครอบครัว.


 

ที่มา  http://dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=507&contentID=134336