Home » วิทยาการ ไอที โลกาภิวัฒน์ » รู้ทันเทรนด์ สื่อสังคมโลกออนไลน์ ปี 2012

การบริหาร/ความรู้ทั่วไป

Web Design by Softbiz+


ว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014

 
รู้ทันเทรนด์ สื่อสังคมโลกออนไลน์ ปี 2012

คำพยากรณ์ถึงโซเชียลมีเดีย ในปี 2012

เรื่อง : Egotist

          โซเซียลมีเดียกลายเป็นเทรนด์สำคัญของโลกในปี 2011 ที่ผ่านมา มันเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมร่วมสมัย และทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว นับตั้งแต่ชีวิตประจำวัน ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน เรื่อยไปจนถึงโอกาสการทำธุรกิจแบบใหม่และแก็ดเจ็ตใหม่อีกสารพัดที่จะต้องออกมาเพื่อรองรับการทำงานเกี่ยวกับมัน

          ในปี 2012 โซเชียลมีเดียยังมีบทบาทสำคัญต่อโลกของเราต่อไป แต่ตัวมันเองก็กำลังมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน และนี่คือ 6 คำพยากรณ์ที่จะเกิดขึ้นกับโซเชียลมีเดีย ในปี 2012 จากบทความของ Adam Ostrow แห่งเว็บ Mashable

1. ผู้ใช้ Facebook เพิ่มขึ้นช้าลง แต่ปริมาณการใช้ยังพุ่งสูงขึ้น

          จำนวนสมาชิกที่พุ่งพรวดพราดตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ Facebook มีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 800 ล้านคนทั่วโลก แน่นอนว่ามันย่อมถึงเวลาที่จำนวนสมาชิกใหม่ที่เข้ามาจะค่อยๆ ชะลอตัวลง ยกเว้นจากตลาดที่เพิ่งเกิดใหม่ อย่างในประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ ทว่าปริมาณการใช้งานของสมาชิกแต่ละคนจะยังคงเพิ่มขึ้นพรวดพราดต่อไป หลังจากที่เรา add friends ถึงกันเพิ่มขึ้น ก็เพิ่มโอกาสที่จะคลิกลิงก์และแชร์ข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วยล่าสุดจากการสำรวจพบว่าสมาชิกแต่ละคนใช้เวลาออนไลน์ Facebook เฉลี่ย 7.5 ชั่วโมงต่อเดือน และตัวเลขนี้เองที่จะเพิ่มขึ้นต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปลี่ยนหน้าตาใหม่เป็นแบบ Timeline ก็ยิ่งดึงดูดให้สมาชิกแต่ละคนเปิดดูข้อมูลของเพื่อนๆ มากขึ้น รวมไปถึงเกมและแอพฯ ต่าง ๆ ที่มีความดึงดูดมากขึ้นด้วย

2. หมดยุค Page View มาตรวัดใหม่ ๆ จะมาแทนที่

          วงการโฆษณาออนไลน์พึ่งพาตัวเลขสถิติ Page View มาตั้งแต่ยุคอินเตอร์เน็ตเริ่มบูมเมื่อ 10 กว่าปีก่อน จนเมื่อเวลาผ่านไป ทุกคนล้วนรู้กันแล้วว่า Page View มีความน่าเชื่อถือลดลง และไม่สามารถสะท้อนความนิยมหรือความคิดของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตได้จริง เมื่อลักษณะการใช้งานอินเตอร์เน็ตเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จนมีคำพูดว่านี่คือยุคของ Death of the Page View เอเยนซี่โฆษณาระดับโลกหลายแห่งกำลังเริ่มต้นหามาตรวัดแบบใหม่ เพื่อคำนวณหาสิ่งที่มีคุณค่าคู่ควรแก่การลงโฆษณา เช่น Starcom MediaVest Group ทำงานร่วมกับกลุ่ม Share This หามาตรวัด “เนื้อหา” ที่ถูกแชร์บ่อยๆ และมีอิทธิพลแผ่ออกไปในวงกว้างอย่างแท้จริง แทนที่จะนับเพียงจำนวนผู้ที่เปิดเข้ามาดูคอนเทรนต์นั้น ๆ เท่านั้น

3. YouTube คืบคลานเข้าสู่ทีวีในห้องนั่งเล่น

          รายการทีวีจะไม่ได้มาในบ้านเราเพียงแค่ทางเสาอากาศและสายเคเบิลทีวีอีกต่อไป มันจะเข้ามาผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต บรรดาอุปกรณ์ทีวีจำพวกสมาร์ททีวีและท็อปบ็อกซ์ต่าง ๆ เริ่มมีความพร้อมมากขึ้น อย่างเช่น Google TV ทำให้ช่องทางวิดีโอของ YouTube ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่บนหน้าจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์อีกแล้ว มันจะกลายเป็นช่องรายการมาตรฐานแบบฟรี ๆ ในทีวีของเราในปีนี้ และรูปแบบของการดูทีวีในบ้านจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เราจะได้ตื่นเต้นกับอะไรใหม่ ๆ มากมาย

 

4. คนดังลงทุนสร้างโซเชียลมีเดีย

          สำหรับผู้ใช้ Twitter คงคุ้นเคยกับการที่ได้เห็นเหล่าคนดังมากมายเข้ามาทวีตทักทายและแชร์ข้อมูลต่าง ๆ กับแฟนคลับ Followers ของพวกเขาในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมา โซเชียลมีเดียโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Twitter เปิดให้คนดังและแฟนคลับใกล้ชิดกันมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ส่วนใหญ่เป็นไปแบบไม่เป็นทางการ และคนดังส่วนใหญ่เล่นโซเชียลมีเดียเหล่านี้อยู่แล้ว ไม่ได้มีการวางแผน วางกลยุทธ์การตลาดอะไรมากมาย

          ในปี 2012 เราจะได้เห็นการใช้โซเชียลมีเดียอย่างเอาจริงเอาจังทางธุรกิจ เหล่าคนดังจะเข้ามาเล่นอย่างมีกลยุทธ์ มีแผนการ และหวังผลทางด้านการขายสินค้าหรือบริการของตนเองยิ่งถ้าเป็นคนดังระดับโลกที่มีเงินลงทุนเป็นกอบเป็นกำ ก็จะลงทุนสนับสุนนผู้สร้างโซเชียลมีเดียที่ตนคิดว่าน่าจะเวิร์ก อย่างเช่น ลีโอนาร์โดดิคาปริโอ ลงทุนให้กับ Mobli จัสติน ทิมเบอร์เลคลงทุนให้กับ Dekko

5. มิจฉาชีพลามถึงสมาร์ทโฟนแน่ ๆ

          หลังจากที่พวก phishing และ malware กระจายอยู่ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ และอีเมลจนทำให้ติดเครื่องคอมพิวเตอร์กันงอมแงม และผู้ใช้ถูกหลอกให้คลิกอะไรต่อมิอะไรมากมายมาแล้ว การเจริญเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟน เป็นสิ่งที่ดึงดูดให้แฮกเกอร์พุ่งเป้าเข้ามาหา และมีทีท่าว่ามันกำลังจะมาระบาดในโทรศัพท์ของเรา ผ่านการเปิดโซเชียลมีเดียต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาแอพฯ ฟรีต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาแอพฯ ฟรีที่มีติดโฆษณาต่าง ๆ กำลังมีแนวโน้มว่ามันจะนำผู้ใช้ไปสู่เว็บที่มี phishing และ malware ได้ง่ายขึ้น

6. อีคอมเมิร์ซทำได้ง่าย และแพร่หลาย

          ใครที่เคยทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซผ่านทางเว็บไซต์ต่าง ๆ คงต้องเคยเจอปัญหามีลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมน้อย ถ้าลองเปลี่ยนช่องทางมา ใช้โซเชียลมีเดียจะมีโอกาสมากขึ้น เพราะโซเชียลมีเดียมีข้อได้เปรียบเว็บไซต์มากมาย มันเหมาะสำหรับการใช้ทำอีคอมเมิร์ซ เพราะเปิดโอกาสให้ผู้ชายสามารถมีลูกค้าคอยติดตามข่าวสารได้เป็นประจำแถมยังประกาศข้อเสนอต่าง ๆ ออกไปได้ในวงกว้างขึ้น และคาดว่าในปี 2012 โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่จะมีเครื่องไม้เครื่องมือใหม่ ๆ มาให้สมาชิกได้ทำธุรกิจอย่างง่ายดายมากขึ้นกว่านี้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ที่มา http://men.kapook.com/view39265.html