การเลือกซื้อบ้านและการต่อเติม กับ กฎหมายที่ควรคำนึงถึง |
เดลินิวส์ วันเสาร์ ที่ 28 พฤษภาคม 2554 : กฎหมายรอบรั้ว
การเลือกซื้อบ้านและการต่อเติม
ปัจจุบัน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ฉบับที่มีผลบังคับใช้อยู่ และมีการปรับปรุงแก้ไข ฉบับที่ 3 เริ่มใช้ตั้งแต่ พ.ศ.2543 สาระสำคัญทางกฎหมายประสงค์จะควบคุม 4 ประการสำคัญ คือความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัยต่อผู้ใช้อาคาร ความเป็นระเบียบเรียบร้อยต่อสังคมและชุมชน และสร้างมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
กฎหมายควบคุมอาคาร เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ซื้อบ้านจัดสรรเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว (ทาวน์เฮาส์) ห้องแถว และตึกแถว ซึ่งตึกแถวและบ้านแถว (ทาวน์เฮาส์) แม้ว่าจะจัดเป็นที่อยู่อาศัยเหมือนกันแต่ก็มีความแตกต่างกันในเรื่องของการกำหนดระยะถอยร่นของอาคาร คือที่ว่างด้านหน้าระหว่างรั้วกับแนวเขตที่ดิน เพราะกฎหมายกำหนดว่าบ้านแถวหรือทาวน์เฮาส์ ต้องมีรั้วด้านหน้า ด้านหลังและเส้นแบ่งระหว่างบ้านแถวแต่ละหน่วย ส่วนบ้านแฝดจะต่างจากบ้านเดี่ยวตรงที่บ้านแฝดต้องมีผนังแบ่งร่วมกัน
ดังนั้น ก่อนที่จะซื้อบ้านจัดสรร ก็ควรคำนึงถึงข้อกฎหมายเรื่องควบคุมอาคารด้วย เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งตามกฎหมายควบคุมอาคาร บ้านที่ควรเลือกซื้อ ต้องเป็นบ้านที่มีการก่อสร้าง และใช้อาคารได้ตามที่กฎหมายกำหนด ถ้าซื้อบ้านราคาถูกแต่ก่อสร้างโดยผิดกฎหมาย ผู้ซื้ออาจต้องถูกดำเนินคดี และถูกบังคับให้รื้อถอนในภายหลังได้ แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างก็ตาม
เช่นการซื้อบ้านจัดสรรที่มีการต่อเติมในภายหลังจากที่มีการขออนุญาตก่อสร้างไปแล้วโดยไม่มีการแจ้งขอดัดแปลงอาคาร เนื่องจากมีกฎกระทรวงกำหนดว่าถ้าผู้เป็นเจ้าของบ้านต้องการต่อเติมอาคาร การต่อเติมนั้นต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 5 ตร.ม. ถ้าพื้นที่ที่ต่อเติมเกินจาก 5 ตร.ม. ขึ้นไป เข้าข่ายเป็นการขอดัดแปลงอาคาร ถ้ามีการเพิ่มน้ำหนักให้แก่โครงสร้างเกิน 10% ของโครงสร้างเดิม ก็ถือว่าเป็นการดัดแปลงอาคารด้วยเช่นกัน ผู้เป็นเจ้าของบ้านต้องไปขออนุญาตต่อเติมอาคารตามกฎหมาย
และนี่ก็เป็นปัญหาสำหรับของผู้ซื้อบ้านจัดสรรในโครงการต่าง ๆ เพราะผู้ซื้ออาจไม่มีโอกาสรู้ได้ว่าบ้านที่ซื้อมานั้นมีการต่อเติมหรือไม่ ดังนั้นผู้ซื้อควรทำการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะหากเป็นการซื้อในโครงการจัดสรร และถึงแม้ว่าเป็นการต่อเติมไม่เกิน 5 ตร.ม. แต่หากการต่อเติมทำให้ระยะห่าง หรือระยะถอยร่นไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายแล้ว ก็ไม่สามารถต่อเติมได้ ข้อแนะนำก็คือผู้ซื้อบ้านควรตรวจสอบกับทางโครงการ หรือตรวจสอบจากแบบแปลนบ้านว่าตรงกับที่ก่อสร้างจริงหรือไม่ การขอดูแบบแปลนหลังบ้านที่จะซื้อสามารถทำได้ เนื่องจากปัจจุบันผู้จัดสรรเริ่มมีการเปิดเผยข้อมูล (พิมพ์เขียว) ให้ลูกค้าตรวจสอบ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ และตามกฎหมายผู้ซื้อบ้านสามารถร้องขอ เพื่อตรวจดูเอกสารดังกล่าวได้เช่นกัน
ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน ต้องพิจารณาให้รอบ คอบ โดยพิจารณาถึงพื้นที่ใช้สอยในอนาคต ว่ามีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอสำหรับครอบครัวหรือไม่ (เป็นการวางแผนเผื่อไว้ หากมีการขยายครอบครัวหรือการมีสมาชิกเพิ่มขึ้น) เพื่อเลี่ยงการต่อเติมอาคารในภายหลัง.
ดินสอพอง
ที่มา dailynews.co.th
|