Home » อสังหาฯ บ้าน คอนโด ที่ดิน » ซื้อบ้านจัดสรรอย่างไร...ไม่ถูกเอาเปรียบ

การบริหาร/ความรู้ทั่วไป

Web Design by Softbiz+


ว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014

 
ซื้อบ้านจัดสรรอย่างไร...ไม่ถูกเอาเปรียบ

ซื้อบ้านจัดสรรอย่างไร...ไม่ถูกเอาเปรียบ

กลุ่มงานคดี  ศาลแขวงพิษณุโลก

        ปัจจุบันนี้สภาพเศรษฐกิจมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น  ธุรกิจบ้านจัดสรรในจังหวัดพิษณุโลกกำลังเป็นที่น่าสนใจ  ประชาชนซึ่งกำลังจะตัดสินใจซื้อที่ดินหรือซื้อบ้านพร้อมที่ดินในโครงการหมู่บ้านจัดสรร  ก่อนตัดสินใจซื้อต้องพิจารณาให้ถ้วนถี่ เพราะบ้านเป็นที่อยู่อาศัยของเราในเวลาอันยาวนาน  และราคาก็ค่อนข้างสูง  ซึ่งคดีผู้บริโภคที่มาสู่ศาลแขวงพิษณุโลก  ก็มีการฟ้องร้องกันเกี่ยวกับบ้านจัดสรร เช่นไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านพร้อมที่ดิน, ปัญหาผู้ประกอบกิจการบ้านจัดสรร ไม่ก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญา, ปัญหาผู้ประกอบธุรกิจไม่ปฏิบัติตามสัญญาในเรื่องสาธารณูปโภค, ปัญหาการเก็บค่าใช้จ่ายส่วนกลางมากกว่าที่สัญญาระบุไว้ และปัญหาบ้านมีความชำรุดบกพร่อง

        เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาต่าง ๆ ในการเลือกซื้อบ้านจัดสรรควรพิจารณาดังนี้

        ๑.  ควรเลือกซื้อบ้านกับโครงการที่มีใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจ  เพราะผู้บริโภคจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายเกี่ยวกับการสรรที่ดิน  ซึ่งโครงการที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายจะมีมาตรฐานในเรื่องการสร้างบ้าน ถนนโครงการ ระบบไฟฟ้า ประปา และสาธารณูปโภคอื่น ๆ

        ๒.  ต้องตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ได้แก่ ตรวจสอบสาธารณูปโภคในโครงการว่ามีอะไรบ้าง เช่น ในแผ่นพับโฆษณาว่าจะมีสวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ สนามกีฬา,สนามเด็กเล่น ผู้ประกอบธุรกิจก็ต้องปฏิบัติตามสัญญา หากเราได้ชมโครงการแล้วยังไม่ได้ทำเลยก็ต้องสอบถามให้ชัดเจนว่าจะเริ่มทำเมื่อใด และจะทำหรือไม่ เพราะมีหลายโครงการที่สร้างบ้านขายหมดทุกหลังแล้ว ก็ละเลยไม่ทำสวนสาธารณะ หรือสระว่ายน้ำตามที่สัญญาไว้  ควรไปชมโครงการอื่น ๆ ของผู้ประกอบธุรกิจบ้านจัดสรรรายเดียวกันนี้ว่าผลงานเป็นอย่างไรบ้าง ถนนโครงการกว้างตามแบบที่กฎหมายกำหนดหรือไม่  ระบบการจัดเก็บขยะ การระบายน้ำหรือปัญหาน้ำท่วมขัง หรือสอบถามจากคนที่อยู่ในโครงการนั้นว่ามีปัญหาเกี่ยวกับบ้านที่ซื้อไปหรือไม่ ควรตรวจสอบใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจ และตรวจสอบโฉนดที่ดินด้วย

        ๓.  ศึกษาสภาพแวดล้อมของโครงการ ในเรื่องการเวนคืนที่ดิน,ข้อห้ามในการก่อสร้างอาคาร,มลภาวะต่าง ๆ เช่นเสียง ฝุ่นละออง

        ๔.  อย่าหลงเชื่อโฆษณา ต้องสอบถามเงื่อนไขให้ชัดเจน ว่าก่อสร้างเสร็จเมื่อใด ราคาซื้อขาย สาธารณูปโภคมีอะไรบ้าง ของแถม ส่วนลด ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง  ส่วนค่าธรรมเนียมและค่าภาษีต่าง ๆ ในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อจะรับผิดชอบเฉพาะค่าธรรมเนียมครึ่งหนึ่งเท่านั้น ส่วนค่าธรรมเนียมอีกครึ่งหนึ่งและค่าภาษีต่าง ๆ เป็นหน้าที่ของประกอบธุรกิจบ้านจัดสรรที่จะต้องชำระตามกฎหมาย หากในสัญญาระบุไว้ว่าผู้ซื้อจะต้องชำระทั้งหมดก็ไม่ถูกต้อง  ถือว่าผู้ซื้อซึ่งเป็นผู้บริโภคกำลังถูกผู้ขายซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจบ้านจัดสรรเอาเปรียบ ก็ควรพิจารณาว่าขนาดแค่เรื่องค่าธรรมเนียมและภาษีในการโอนกรรมสิทธิ์ยังผลักภาระให้ผู้บริโภค  แล้วในเรื่องอื่นๆ ล่ะจะรับผิดชอบไหม ในการตัดสินใจซื้อบ้านควรพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย

        ๕.  ก่อนลงนามในสัญญาควรศึกษาสัญญาให้รอบคอบ  ต้องอ่านสัญญาทุกหน้าก่อนลงชื่อ หากไม่เข้าใจในข้อสัญญาข้อใด ให้สอบถามผู้ประกอบธุรกิจบ้านจัดสรรก่อน  หากเห็นว่าสัญญานั้นไม่เป็นธรรมก็ควรเลื่อนระยะเวลาทำสัญญาออกไป  เพื่อไปปรึกษาผู้รู้ในเรื่องนั้นก่อน อย่ารีบลงชื่อไปโดยยังมีข้อสงสัยอยู่เพราะอาจทำให้ผู้บริโภคเสียเปรียบได้ในภายหลัง

 

ที่มา   http://www.coj.go.th/pslmc