Home » อสังหาฯ บ้าน คอนโด ที่ดิน » มาทำความรู้จักกับ คอนโดมิเนียม การเลือกซื้อ องค์ประกอบ และการจัดห้อง

การบริหาร/ความรู้ทั่วไป

Web Design by Softbiz+


ว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014

 
มาทำความรู้จักกับ คอนโดมิเนียม การเลือกซื้อ องค์ประกอบ และการจัดห้อง

           คำว่า “คอนโดมิเนียม” เริ่มติดปากคนไทยในรอบ ทศวรรษที่ผ่านมา จากความคิดที่ไม่ค่อยมีคนยอมรับ ในช่วงแรก กลับกลายเป็นจินตภาพใหม่ สำหรับที่อยู่ อาศัยซึ่งเข้ามาแทนบ้านเรือน ทั้งนี้เพราะแนวคิด ของผู้คน เริ่มแปรเปลี่ยนตามสภาพเศรษฐกิจ ในแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านมา และจากความนิยม ของผู้ที่มีฐานะดี ในตอนแรก ไปสู่ความนิยม ของผู้ที่มีรายได้ต่ำ ทำให้เกิดโครงการคอนโดฯ มากขึ้น ตามลำดับ ถึงแม้ว่าคอนโดมิเนียม จะเกิดขึ้นมากมาย ก็ตาม แต่คอนโดฯ ก็ถือว่าเป็นของใหม่ สำหรับวิถีชีวิต แบบไทยๆ
 
          การเลือกซื้อคอนโดฯ นั้นจะแตกต่างกันไปตามจุดมุ่งหมาย ของแต่ละคน บ้างก็ต้องการที่อยู่อาศัย ใกล้แหล่งงาน บ้างก็ต้องการที่อยู่อาศัย ในระดับราคาที่เขาสามารถจะซื้อได้ และที่มากไปกว่านั้น ทุกคนต้องการที่อยู่อาศัย ซึ่งไม่ต่างไปจากบ้านที่เคยอยู่กัน

          ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อคอนโดฯ ผู้ซื้อควรศึกษา หาความรู้เรื่องต่างๆ เกี่ยวกับคอนโดฯ มากพอสมควร เพื่อความมั่นใจ และความมั่นคงในชีวิตของท่านเอง

          “
คอนโดมิเนียม”  เป็นศัพท์ภาษาอังกฤษ ตามภาษา กฎหมายใช้คำว่า “อาคารชุด” หมายถึง “อาคารที่บุคคล สามารถแยก การถือกรรมสิทธิ์ออกได้เป็นส่วนๆ โดยแต่ละส่วนประกอบด้วย กรรมสิทธิ์ในทรัพย์ ส่วนบุคคล และกรรมสิทธิ์ร่วม ในทรัพย์ส่วนกลาง” ซึ่งแปลไทยเป็นไทย ได้อีกทีหนึ่งว่า ผู้มีกรรมสิทธิ์ ในอาคารชุด คือห้องชุดที่ตนเอง เป็นเจ้าของอยู่แล้วนั้น ยังมีทรัพย์สิน ที่มีกรรมสิทธิ์ ร่วมกัน อยู่อีกส่วนหนึ่ง คือทรัพย์สินส่วนกลาง เช่นทางเดิน ลิฟท์ ที่จอดรถ หรือสระว่ายน้ำ ที่อยู่ในอาคารชุดนั่นๆ กรรมสิทธิ์ เหล่านี้มีหลักฐาน การถือครองคือ “นิติกรรมอาคารชุด” ซึ่งเปรียบเสมือนโฉนดที่ดิน และสามารถ ใช้ประโยชน์ได้ เช่นเดียวกับ โฉนดที่ดิน ทุกประการ ...
 

คอนโดมิเนียม หรืออาคารชุดยังแบ่งออกได้ 3 ประเภท ตามการใช้งานคือ

  • คอนโดมิเนียมเพื่อการอยู่อาศัย  เป็นคอนโดมิเนียม ที่จัดสร้างขึ้น โดยมี จุดประสงค์ หลักคือ เพื่อเป็นที่อยู่ อาศัยจะมีขนาด ในแต่ละหน่วย ใหญ่หรือเล็ก แตกต่างกันไป ตามทำเลที่ตั้งของโครงการ นั้น ซึ่งจะประกอบด้วย ห้องต่างๆ หลายห้อง และมีสิ่ง อำนวยความสะดวกต่างๆ รวมอยู่ด้วยเช่น สระว่ายน้ำ ห้องประชุม ห้องออกกำลังกาย ซุปเปอร์มาร์เก็ต
  • คอนโดมิเนียมเพื่อการพักผ่อน มีลักษณะเดียวกับคอนโดมิเนียม เพื่อการอยู่อาศัยแต่ทำเลที่ตั้งนั้น จะอยู่ในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะ กับการพักผ่อน มากขึ้น ผู้ซื้อคอนโดฯ ประเภทนี้จึงมีจุดประสงค์ เพื่อต้องการความเป็นส่วนตัว ในการพักผ่อนในสุดสัปดาห์ ของครอบครัว หรือบริษัทซึ่งพร้อมจะใช้งานตลอดเวลา
  • คอนโดมิเนียมเพื่อธุรกิจการค้า  เป็นคอนโดมิเนียม เพื่อใช้สำหรับสำนักงาน หรือสถาน ประกอบธุรกิจการค้า มีลักษณะ และการใช้งานเหมือนสำนักงาน คอนโดมิเนียมทั่วไป แต่บริษัท สามารถซื้อ เป็นกรรมสิทธิ์ได้

ในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมนั้น นอกจากจะต้อง ศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับคอนโดฯ ข้างต้นแล้ว หลักสำคัญที่ผู้ซื้อคอนโดฯ ควรจะพิจารณายังมีอีก หลายประการ ทั้งในด้านความสมบูรณ์ของตัวอาคาร และด้านกฎหมาย คือกรรมสิทธิ์หรือเจ้าของผู้จัดการด้วย ซึ่งต่อไปนี้ จะกล่าวถึงการพิจารณาตัวอาคารก่อน
 
 

            การเลือกซื้อคอนโดมิเนียม นั้น หลักสำคัญที่ผู้ซื้อคอนโดฯ ควรจะพิจารณามีหลายประการ ทั้งในด้านความสมบูรณ์ของตัวอาคาร และด้านกฎหมาย คือกรรมสิทธิ์หรือเจ้าของ ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึง การพิจารณาตัวอาคารก่อนคือ ทำเลที่ตั้ง คอนโดมิเนียม ปัจจัยข้อนี้นับว่าสำคัญที่สุด เพราะการตัดสินใจซื้อ คอนโดมิเนียมนั้น คนส่วนใหญ่จะมีเหตุผล มาจากความสะดวกในการเดินทางจากที่พักสู่ที่ทำงาน แต่การพิจารณาเรื่องทำเลที่ตั้งนั้น ไม่ควรจะพิจารณา แต่เพียงว่าอยู่ใกล้ที่ทำงานเท่านั้น แต่ควรพิจารณา ประการอื่นๆ ด้วย ประการแรก พิจารณาในภาพกว้างว่า จุดที่ตั้งของคอนโดฯ สามารถเดินทางติดต่อ กับสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกเพียงใด
 
            โดยจะดูได้จากโครงข่ายสำคัญที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะแหล่งงานในปัจจุบัน หากเป็นการทำงาน ในสำนักงาน ก็จะมีแหล่งรวมสำนักงานกระจุกตัวกันอยู่บริเวณใจกลางเมือง อีกประการหนึ่ง ที่จะต้องพิจารณา คือในบริเวณรัศมีใกล้ๆ กับตัวคอนโดฯ ที่จะเลือกซื้อเริ่มตั้งแต่ที่ตั่งของอาคาร และอาคารข้างเคียง สภาพแวดล้อมบริเวณรอบคอนโดฯ น่าอยู่เพียงใด ทางเข้าออกโครงการ สะดวกแค่ไหน ถ้าห่างจากถนนใหญ่ ก็ไม่ควรมากนัก และถนนซอยจะต้องกว้างพอ  

            ส่วนองค์ประกอบหลักที่สำคัญของอาคารชุดพักอาศัย(คอนโดฯ) ซึ่งได้แก่

   - ห้องรับแขกและห้องพักผ่อน
   - ห้องอาหาร
   - ห้องนอน
   - ห้องน้ำและห้องส้วม
   - ห้องแต่งตัว
   - เฉลียง
   - ห้องครัว
   - บริเวณซักล้าง
   - ห้องคนใช้
   - ห้องเก็บของ
   - โถงทางเข้า
   - ห้องสวดมนต์(สำหรับคอนโดฯพิเศษ)
   - ห้องทำงาน (สำหรับคอนโดฯพิเศษ)
   - สนามหญ้าและสวนประดับ (สำหรับคอนโดฯพิเศษ)
   - ห้องรับแขก (สำหรับคอนโดฯพิเศษ)

            องค์ประกอบเสริมของอาคารชุดพักอาศัย (คอนโดฯ) ได้แก่

   - สระว่ายน้ำผู้ใหญ่และเด็กเล็กพร้อมห้องแต่งตัว
   - ห้องออกกำลังกาย ชาย-หญิง
   - ห้องสควอชหรือสนามเทนนิส
   - ส่วนพักผ่อนในร่ม และส่วนพักผ่อนภายนอก
   - สนามเด็กเล่น
   - ห้องกีฬาในร่มและเอนกประสงค์
   - ห้องจัดเลี้ยง และส่วนเตรียมอาหาร
   - ห้องเก็บของรวม
   - ที่จอดรถ

          การบริการในสภาพทั่วๆไป เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา การกำจัดขยะและของเสีย ลิฟท์ ทีวีวงจรปิด เสา อากาศทีวีรวม วิดีโอ โทรศัพท์ รวมถึงการป้องกันภัย และการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนการให้บริการ ด้านการจัดโปรแกรมต่างๆ เพื่อความบันเทิง หรือเพื่อ สัมพันธภาพของผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดฯนั้นๆ เป็นต้น

          ทรัพย์สินส่วนกลาง ในเรื่องของทรัพย์สินส่วนกลาง เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ควรพิจารณา ซึ่งก็คือสิ่งอำนวย ความสะดวกและสาธารณูปโภคต่างๆ มีพร้อมเพียงใด ที่จำเป็นก็คือที่จอดรถ ลิฟท์ บันไดใหญ่ และบันไดหนีไฟ ระบบป้องกันอัคคีภัยในอาคาร ระบบทิ้งขยะ ระบบน้ำประปา ไฟฟ้า ระบบการกำจัดน้ำเสีย ระบบสื่อสารทางโทรศัพท์สายตรง หรือผ่านศูนย์เหล่านี้ ควรจะมีและได้มาตรฐานเพียงพอ ต่อการใช้งาน ในอาคารส่วนอื่นๆ ที่อาจจะมีเสริมเข้ามาเช่น สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส ห้องออกกำลังกาย สวนหย่อม หอประชุม สิ่งเหล่านี้เมื่อมีเสริมเข้ามา ก็จะทำให้ราคาของคอนโดฯ ต่อหน่วยสูงขึ้นด้วย

          ในเรื่องของขนาด วัสดุและเครื่องเรือนที่ติดตั้งพร้อมในห้องชุด ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา โดยควรจะดูว่า มีเนื้อที่ภายในเท่าใด แบ่งออกเป็นกี่ห้องมีระเบียง หรือไม่ วัสดุที่ใช้ปูพื้นประตู หน้าต่าง สุขภัณฑ์ อุปกรณ์ไฟฟ้ามีมาตรฐาน และเปรียบเทียบราคาโดยเฉลี่ยกับวัสดุประเภทเดียวกัน เครื่องเรือน ที่ติดตั้ง ให้มีอะไรบ้าง เป็นต้น
 
          เมื่อพิจารณาในส่วนขอบงตัวอาคาร อย่างละเอียด ถี่ถ้วนแล้ว ในส่วนที่นอกเหนือจากตัวอาคาร ที่ควรจะ พิจารณาด้วยเช่นกันดังนี้ ระดับราคา ของคอนโดมิเนียม ซึ่งหากจะว่าไปแล้ว เรื่องระดับราคา ของคอนโดฯ ที่จะซื้อนั่นเป็นเรื่องจำกัด ในแต่ละบุคคล แล้วว่าแต่ละคน มีกำลังซื้อเท่าใด สำหรับผู้ที่มีรายได้สูง สามารถซื้อคอนโดมิเนียม ระดับราคาหลายล้านบาท หลายคนเพียงแต่ซื้อคอนโดฯ ไว้เป็นบ้านที่สอง ที่ใกล้ที่ทำงานเพื่อความสะดวกด้วยซ้ำ แต่สำหรับ ผู้ที่มีรายได้ต่ำ และรายได้ปานกลางแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
 

          จากรายงานของส่วนอุตสาหกรรม ฝ่ายวิชาการ ธนาคารกสิกรไทย เกี่ยวกับเรื่องกำลังซื้อบ้าน ของคนที่มีระดับรายได้ต่างๆ โดยเน้นไปที่ผู้มีรายได้ ตั้งแต่ 2350-19050 บาท ซึ่งรายงานชิ้นนี้ กล่าวว่าเงื่อนไข ในการซื้อบ้านในปัจจุบันน้นผู้ซื้อบ้าน จะต้องมีเงินก้อน สำหรับการดาวน์บ้านประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของราคาบ้าน
 
          จากนั้นจะผ่อนชำระได้ ในระยะเวลาไม่เกิน 20 ปีในอัตราดอกเบี้ย 15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องใช้เงิน ในการผ่อนชำระนี้ ประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์หรือ 1ใน 3 ของเงินเดือนที่ได้รับ การเลือกซื้อคอนโดฯ จึงไม่เพียง แต่จะเลือกระดับราคาบ้าน ให้เหมาะสมกับรายได้ เพื่อให้สามารถ มีกำลังผ่อนตลอดแล้ว อีกเรื่องที่จำเป็น ต้องพิจารณาประกอบ กับราคาคือเงื่อนไข ในการผ่อนชำระเงิน จะต้องเปรียบเทียบ ในเรื่องของ การจ่ายเงินมัดจำ เงินทำสัญญาที่สำคัญที่สุดคือ การผ่อนดาวน์ ถ้ามีระยะเวลาในการผ่อนดาวน์ นานเท่าไรก็ลดภาระผู้ซื้อลงไปมากเท่านั้น เพราะช่วง ผ่อนดาวน์คือ ช่วงปลอดดอกเบี้ยนั่นเอง โดยเฉลี่ยทั่วๆ ไปจะผ่อนดาวน์กัน ตามระยะเวลาการก่อสร้าง ซึ่งขึ้นกับขนาด ของอาคารทั่วไป จะประมาณ 6-24 เดือน
 

          ความน่าเชื่อถือของโครงการ เมื่อเรากำหนดไว้แล้วว่า จะเลือกซื้อคอนโดฯ ย่านไหน ระดับราคาเท่าใด สิ่งที่ต้องดูต่อไปคือเราจะเลือกซื้อคอนโดฯ ในโครงการไหนดี ข่าวคราวเรื่องคอนโดฯ จะมีปัญหาหรือไม่นั้นนับว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่จำต้องพิจารณา สิ่งแรกที่จะต้องดูคือความน่าเชื่อถือ ของผู้ประกอบการ ทุนจดทะเบียนบริษัท ผู้ถือหุ้นใหญ่ และเครดิตด้านการเงินดีหรือไม่ ผู้บริหารโครงการ ผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการฝ่ายขายทำธุรกิจด้านไหนมาก่อน และน่าเชื่อถือเพียงใด มีประสบการณ์การทำงาน ด้านที่อยู่อาศัยมากน้อยเพียงใด บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง มีมาตรฐานงานสูงพอหรือไม่ โครงการมีธนาคาร หรือสถาบันการเงินสนับสนุนโครงการ หรือไม่และมีหลักเกณฑ์ ในการให้กู้ยืม หรือผ่อนส่งอย่างไร
 
          อาคารได้ขออนุญาตก่อสร้างแล้วหรือไม่
อย่างไร จะได้รับอนุญาต และจะเริ่มก่อสร้างเมื่อใด แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลาเท่าใด พิจารณากฎระเบียบ ของอาคารชุดนั้น อย่างละเอียด ซึ่งในแง่กฎหมาย ทั่วไปจะเหมือนกัน แต่บางแห่งอาจตั้ง กฎระเบียบขึ้นใช้ ภายใน ซึ่งไม่เหมือนกับโครงการอื่น เมื่อท่านเข้าอยู่ อาศัยแล้ว ท่านจะต้องปฏิบัติตามกฎเหล่านั้น นอกจากนั้นแล้วจะต้องเปรียบเทียบรายละเอียด ของอาคารชุด โครงการอื่น ที่มีลักษณะใกล้เคียง จะทำให้ท่านได้เปรียบในการพิจารณา และต่อรองมากขึ้น สิ่งสำคัญสิ่งสุดท้าย เมื่อได้พิจารณา โครงการต่างๆ อย่างละเอียดแล้ว ทั้งในด้านระดับ ราคาของคอนโดฯ และข้อพิจารณาภายนอก ภายในอาคารต่างๆ แล้วก็ควรจะเพื่อเงินในกระเป๋า ของทานด้วย เพื่อสร้างคอนโดฯ ให้เป็นวิมาน ในจินตภาพของท่าน 
 

การจัดห้องในคอนโดมิเนียม

        ห้องต่างๆ ภายในคอนโดมิเนียม อันที่จริงก็มีส่วนคล้ายคลึง หรือเหมือนกับห้องต่างๆ ภายในบ้านนั่นเอง คือจะเป็นห้องที่เราสามารถใช้งานได้ ตามความต้องการ ของสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว แต่พื้นที่ของคอนโดฯ จะเป็นเนื้อที่ที่จำ และมีเนื้อที่ใช้สอยไม่มากมาย เท่ากับพื้นที่ในบริเวณบ้าน ถึงกระนั้น ก็คงไม่มีใคร ปฏิเสธ ที่จะอยากมีที่อยู่อาศัย ภายในสิ่งแวดล้อมที่ดี และสวยงาม ตกแต่งให้มุมมองต่างๆ ให้เหมาะสม คอนโดฯ เองก็มีสิทธิ์ที่จะถูกตกแต่งด้วยเช่นกัน

          การจัดห้องสำหรับคอนโดมิเนียม มีหลักเกณฑ์การแบ่งองค์ประกอบ ของการใช้สอยพื้นที่ได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

          ห้องนอน ห้องนอนเป็นห้องที่มีความสำคัญมากที่สุด ถ้าคิด ตามความจำเป็นในการดำเนินชีวิต ห้องจะมีมากตามจำนวนสมาชิกของครอบครัว หรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับความจำเป็น และงบประมาณเป็นหลัก ซึ่งแต่ละห้องควรจะมีการออกแบบ ให้ถูกสุขลักษณะ มีการระบายอากาศดี ได้รับแสงสว่าง พอเพียง ไม่มากเกินไป จนร้อน มีทางลมเข้า และทางลมออก เพราะจะทำให้มี การระบายอากาศได้อย่างทั่วถึง ในห้องนอน นอกจากจะใช้เป็นที่สมควร ซึ่งต้องดูจาก สภาพซอย ว่าเป็นชุมชนที่หนาแน่นเกินไปหรือไม่ แหล่งชุมชนใกล้เคียงก็เป็นเรื่องสำคัญ ควรเลือก ที่ซึ่งมีพร้อมทั้งตลาดสด ห้างสรรพสินค้า แหล่งบันเทิง เพื่อวันหยุดจะได้ไม่ต้องเหนื่อย กับการเดินทางไกล

          ตำแหน่งที่ตั้งและคำนึงในการจัดห้องนอน

  • ตำแหน่งของห้องนอนไม่ควรอยู่ใกล้กับห้องรับแขก เพราะจะทำให้ขาดความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะเสียง จากห้องนอนเด็กจะเป็นการรบกวนต่อแขกได้
  • ภายในห้องนอนควรมีแสงสว่างเพียงพอ มีการระบายอากาศที่ดี และสะดวกต่อการใช้ห้องน้ำ โดยที่ไม่ต้องเดินไกล
  • การจัดห้องนอนใหญ่ ควรจะต้องมีเนื้อที่เผื่อไว้ สำหรับเตียงของทารกด้วย (ในกรณีที่มีเด็กทารก)

          ห้องน้ำ-ห้องส้วม ห้องน้ำ ห้องส้วมนับว่ามีความจำเป็นมาก อีกห้องหนึ่งจะต้องเป็นห้องที่ใหญ่เพียงพอ มีสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นดังนี้

   - อ่างล้างหน้า
   - โถส้วมชักโครก
   - อ่างอาบน้ำ
   - ที่อาบน้ำฝักบัว
   - อ่างเก็บน้ำ
   - ราวจับและที่ใส่สบู่ที่อ่างอาบน้ำ
   - ที่ใส่กระดาษชำระใกล้กับโถส้วม
   - ที่ใส่สบู่สำหรับอ่างล้างหน้า
   - ราวพาดผ้าเช็ดตัว
   - กระจกเงาและตู้แขวน
   - ราวม่านสำหรับกันน้ำกระเด็นในสวนอาบน้ำฝักบัว

          การจัดสุขภัณฑ์ แต่ละอย่างควรจะมีเนื้อที่เพียงพอ สำหรับการใช้สอยโดยสะดวก มีที่สำหรับให้ประตู เปิดกว้างถึง 90 องศาได้ ขนาดของห้องน้ำจะใหญ่ หรือเล็ก ขึ้นอยู่กับ ความจำเป็นในการใช้ห้องนั้น ในบางครั้ง อาจจะแยกห้องน้ำ และห้องส้วมออกจากกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่ กับจำนวน สมาชิกในครอบครัว หากมีความจำเป็นมาก และต้องออกไปทำธุรกิจพร้อมกัน ก็ควรจะแยกห้องน้ำ และห้องส้วมออกจากกัน จะทำให้ไม่ต้องเสียเวลารอคอย

          ตำแหน่งที่ตั้งและข้อคำนึงถึงในการจัดห้องน้ำ ห้องส้วม

  • ควรอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกในการติดต่อกับห้องต่างๆ
  • ควรอยู่ในที่มิดชิดพอสมควร ประตูของห้องน้ำไม่ควรหันไปทางห้องอาหารหรือห้องรับแขก เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีแก่ผู้มาเยือนได้
  • ภายในห้องควรจะมีการระบายอากาศที่ดี และมีแสงสว่าง ที่เพียงพอ- วัสดุภายในห้องน้ำ ควรทำความสะอาดได้ง่าย

          บริเวณซักล้าง เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องจัดให้มีทุกห้องชุด เพื่อเป็นบริเวณ ซักผ้า ซักล้าง ตากผ้า ซึ่งมักจะมีการเปียกชื้นอยู่เสมอ ดังนั้นจึงควรจัดเป็นส่วนหนึ่งของเฉลียงหรือที่เฉพาะด้าน เพื่อการระบายอากาศด้วย และที่สำคัญควรจะสามารถ ติดต่อกับห้องครัวได้โดยตรง และที่สำคัญที่สุด จะตัองมีขนาดท่อที่ใหญ่กว่ามาตรฐานเล็กน้อย พร้อมระบบท่อ ระบายอากาศที่เพียงพอ สำหรับฟองผงซักฟอก ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

          ห้องคนใช้ ห้องคนใช้นี้เป็นห้องที่ใช้พักผ่อนหลับนอน และใช้เป็นที่พักผ่อนส่วนตัว ทำงานและแต่งตัวของคนใช้ โดยทั่วไปจะจัดให้มีห้องน้ำ ห้องส้วมซึ่งติดต่อได้โดยตรง ห้องคนใช้นี้จะจัดแยกออก จากส่วนผู้อยู่อาศัย ซึ่งเป็นเจ้าของ โดยจะจัดให้รวมอยู่กับส่วนห้องครัว หรือห้องเก็บของ

          ห้องเก็บของ
          เป็นที่สำหรับเก็บเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ทั้งที่ใช้และไม่ได้ใช้ซึ่งไม่เหมาะที่จะนำไปเก็บในห้องอื่น ลักษณะห้องจัดเป็นห้องโล่ง อยู่ใกล้กับห้องคนใช้ ห้องครัวและส่วนโถงทางเข้า

          โถงทางเข้า
          ในส่วนของโถงทางเข้า ซึ่งเป็นส่วน ที่อยู่ใกล้ที่สุด ของห้องชุด ซึ่งแยกจากส่วนโถงบันได-ลิฟท์ ควรจัดให้แยก แต่ละยูนิต มองเห็นเด่นชัด และมีลักษณะ ที่เชื้อเชิญ ให้เข้าไป

           ห้องสวดมนต์
           ส่วนนี้โดยมากจะจัด ให้เป็นห้องเฉพาะของห้องชุด ประเภทห้องชุดพิเศษ เท่านั้น มีลักษณะเป็นห้องโล่งมีหิ้ง หรือโต๊ะหมู่บูชา เพื่อจัดวางพระพุทธรูป และสิ่งที่เคารพบูชา มักจะจัดไว้ อยู่ในส่วนที่ต่อเนื่องกัน โถงทางเดินและห้องทำงาน (ห้องพิเศษ) 

           ห้องทำงาน
           เป็นห้องที่ใช้ติดต่อรับแขกพร้อมกับทำงานเฉพาะ ของเจ้าของ ซึ่งแยกต่างหากออกจากห้องพักผ่อน และห้องรับแขกเพื่อความเป็นส่วนตัว ควรอยู่ในตำแหน่งที่ต่อเนื่องกับห้องรับแขก และห้องพักผ่อนได้สะดวก ห้องนี้จะจัดให้เป็นห้องเฉพาะของแต่ละคน ห้องชุดประเภทห้องชุดพิเศษเป็นส่วนมาก

           สนามหญ้าและสวนประดับ
           สนามหญ้าและสวนประดับเป็นส่วนพื้นที่สีเขียวซึ่งประกอบด้วย สนามหญ้า ต้นไม้ สวนประดับ และสวนหย่อมสำหรับพักผ่อนสายตาของผู้อยู่อาศัยส่วนนี้ใช้พื้นที่มากพอสมควร และต้องจัดให้ได้รับแสงแดดและการระบายอากาศที่ดีด้วย ดังนั้นจึงให้จัดอยู่ชั้นบนอาคารชุด ในส่วนของห้องชุดพิเศษเท่านั้น

           ห้องรับรองแขก
           ห้องนี้เป็นห้องรับรองแขก หรือญาติสนิท ประกอบด้วยเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงานสามารถติดต่อ กับบริเวณแต่งตัวและห้องน้ำ ห้องส้วมได้สะดวกโดยอาจจัดแยก จากส่วนที่พักอาศัย ของเจ้าของก็ได้ ห้องนี้มักจัดให้มี ในส่วนห้องชุดพิเศษ เท่านั้น

ส่วนองค์ประกอบเสริมของอาคารชุดพักอาศัย

           อาคารชุดพักอาศัยที่ได้มาตรฐาน ควรจัดให้มีความสะดวกสบาย ทั้งในด้านสิ่งอำนวยความสะดวก และสาธารณูปโภคต่างๆ ที่จำเป็นต้องมีดังต่อไปนี้

           สระว่ายน้ำผู้ใหญ่ และเด็กเล็กพร้อมห้องแต่งตัว

           สระว่ายน้ำเป็นส่วนหนึ่ง ของที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้อยู่อาศัย ซึ่งให้บริการเฉพาะผู้อยู่อาศัย ส่วนนี้จะอยู่ในที่ซึ่งมีบรรยากาศเป็นธรรมชาติที่สุด มีมุมมองที่ดีและมีความเป็นส่วนตัว โดยไม่ถูกรบกวนจากคนภายนอก ในส่วนของสระน้ำนี้ควรจะมี การบริการอาหารเบาๆ และเครื่องดื่มด้วย นอกจากนั้นอาจจะจัดให้มี ที่นอนพักหรือนั่งพักผ่อนด้วยก็ได้

           ที่เปลี่ยนเครื่องแต่งตัว  บริเวณนี้จะมีห้องอาบน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกายก่อน และหลัง การใช้สระว่ายน้ำ ดังนั้นควรจะอยู่ในที่ซึ่งไปใช้ได้สะดวกและมิดชิดพอสมควร ซึ่งควรจะอยู่ใกล้ หรือติดกับส่วนสระว่ายน้ำ แต่ไม่ควรอยู่ในบริเวณเดียวกัน จนทำให้เสียบรรยากาศของสระ ส่วนห้องเครื่องปั๊มน้ำควรอยู่ในตำแหน่งไม่ไกลนัก และควรจะมิดชิดเพื่อกันเสียงรบกวน

           สนามเทนนิส เป็นที่สำหรับพักผ่อน เล่นกีฬา ซึ่งสนามเทนนิสนี้มีไว้บริการเฉพาะผู้อยู่อาศัยเท่านั้น โดยคิดค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อย เพื่อเป็นค่า บำรุงสนาม การจัดสวนนี้ควรคำนึงถึง การได้ร่มเงาจากตัวอาคารด้วย เพื่อให้สนาม มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถบริการได้ทั้งวัน โดยไม่ร้อนมาก และตำแหน่งควรอยู่ใกล้ห้องเก็บของ เก็บเครื่องมือทำความสะอาดสนาม และบริเวณร้านค้า ขายอุปกรณ์เครื่องกีฬา

           สนามเด็กเล่น การจัดสนามเด็กเล่นนั้น ควรจะแยกเด็กเล็ก และเด็กโตออกจากกัน เพราะการเล่นมักจะต่างกัน บริเวณสนามเด็กเล่น ควรจะอยู่ในที่ที่เห็นได้ง่าย เพื่อความสะดวก ควรมีที่พักสำหรับผู้ปกครอง หรือพนักงาน ที่คอยดูแลด้ว

 

ที่มา  http://www.deepordee.com/article?id=38486&lang=th