Consumer 2.0 พลังลูกบ้านผ่านเว็บ
ณ คอนโดมิเนียม “ป” ย่านวิภาวดี ...
บริษัทเจ้าของคอนโดฯ นำป้ายโฆษณามาติดไว้บนตึกเพื่อหารายได้จากป้ายโฆษณาโดยไม่ได้หารือกับลูกบ้านก่อน ทำให้ลูกบ้านผู้อยู่อาศัยต่างไม่พอใจเพราะเสียทิวทัศน์และอันตรายป้ายพังล้มลงมาเมื่อฝนตกหนักลมแรง จึงทักท้วงไปยังทางโครงการ ซึ่งได้คำตอบกลับมาว่าทำไปเพื่อหาเงินเข้าส่วนกลางและไม่มีท่าทีตอบรับ
ลูกบ้านหลายคนเข้าไป "ประจาน" ในเว็บบอร์ด prakard.com มากขึ้นๆ กดดันให้ทางนิติบุคคลอาคารชุดตัดสินใจเลิกสัญญาป้ายโฆษณาเหล่านั้น ปัจจุบันป้ายเหล่านั้นก็ถูกรื้อถอนไปแล้ว
..................
ณ คอนโดมิเนียม “ล” ย่านรัชดา-สุทธิสาร
คอนโดฯ อยู่ระหว่างขาย ลูกค้าช่างสังเกตคนหนึ่งอ่านสัญญาซื้อขายแล้วพบว่าไม่ได้ระบุราคาขายต่อตารางเมตรไว้ แต่ระบุเป็นราคารวมที่ต้องจ่าย แถมด้วยข้อตกลงว่าหากสร้างแล้วพื้นที่จริงของห้องลดจากที่โฆษณาไว้ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์จะไม่มีการลดราคาให้
ลูกค้ารายนั้นสแกนใบสัญญาลงในเว็บฯ prakard.com จากนั้นลูกค้าโครงการอื่นๆ หรือผู้รู้ที่มาอ่านเจอพากันตอบว่าลูกค้าผู้นี้ถูกเอาเปรียบแน่นอน เพราะโครงการอื่นๆ ส่วนใหญ่นั้น หากสร้างออกมาแล้วพื้นที่ลดลงแม้ตารางเมตรเดียวก็จะมีการคืนเงินหรือมีของแถมชดเชยให้
กระทู้นี้มีผู้อ่านมากขึ้นๆ จนในที่สุดโครงการยอมทำสัญญาแนบขึ้นมา ระบุว่าหากพื้นที่เพิ่มจะต้องจ่ายเพิ่มตามราคาต่อตารางเมตรที่ระบุไว้ แต่หากพื้นที่ลดลงก็จะหักราคาออกตามราคาต่อตารางเมตรนั้น
..................
ณ คอนโดมิเนียม "อ" ย่านพระราม 3 …
คอนโดมิเนียมให้โรงเรียนกวดวิชาขนาดใหญ่ชื่อดังมาเช่าพื้นที่ ทางผู้อยู่อาศัยไม่เห็นด้วย เพราะกลัวที่จอดรถที่มีน้อยอยู่แล้วจะไม่พอ กลัวเสียงเด็กนักเรียนรบกวน กลัวสวนและสระว่ายน้ำส่วนกลางสกปรกเสียหาย ฯลฯ
ลูกบ้านเริ่มโพสต์ต่อต้านการเข้ามาของโรงเรียนกวดวิชานั้นใน prakard.com มากขึ้นเรื่อยๆ จนฝ่ายบริหารของโครงการต้องนัดประชุมลูกบ้านเพื่อหาข้อสรุป ซึ่งล่าสุดยังไม่มีทางออก
..................
prakard.com ชุมชนคนซื้อบ้าน
"ใครจะซื้อคอนโดฯ หรือบ้านควรเข้ามาอ่าน prakard.com ก่อน ไม่ว่าจะก่อนจอง ทำสัญญากับโครงการ ตรวจสัญญาซื้อขาย ตรวจรับห้อง ไปจนถึงเมื่อเข้าอยู่แล้ว เพราะจะมีลูกบ้านที่ต่างๆ มาถามข้อสงสัยกัน บ่นปัญหากัน ปรึกษากันทุกเรื่อง" ภาณุ ลีลัคนา พนักงาน IT admin. หนุ่มวัย 29 คุยอย่างมั่นใจถึงเว็บไซต์ที่อาศัยเวลาว่างจากงานประจำปั้นมากับมือ
หลายปีก่อนภาณุตัดสินใจลงหุ้นกับเพื่อนเปิดกิจการ ThaiCyberHost.com เพื่อทำธุรกิจด้าน Web Hosting และรับทำเว็บไซต์หวังรายได้เสริม ลงทุนซื้อคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ ฝากไว้ที่บริการดาต้าเซ็นเตอร์แห่งหนึ่ง แต่ก็ต้องหาธุรกิจใหม่มาเสริมจากการแข่งขันที่สูงมาก แล้วเขาก็พบช่องว่างใหม่ในโลกแห่งเว็บฯ ไทยที่ยังไม่มีใครมาตอบโจทย์
"พอดีตอนนั้นผมจะซื้อคอนโดมิเนียมไว้อยู่เอง ก็พยายามหาข้อมูลต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต ซึ่งส่วนใหญ่ที่เจอก็จะเป็นเว็บฯ ของทางโครงการเอง เป็นโฆษณา มีข้อมูลทั่วๆ ไป แต่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าโครงการไหนดีหรือไม่ดีอย่างไร คนอื่นเขาว่ายังไงกัน เพราะไม่มีข้อมูลอีกด้านจากลูกบ้านที่อยู่หรือผู้ที่เคยซื้อไปเลย"
ภาณุตัดสินใจเปิดเว็บบอร์ด prakard.com วางตำแหน่งให้เป็นเหมือนกระดานข่าวกลางให้ผู้ซื้อและลูกบ้านโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรต่างๆ เข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์กัน
"แรกๆ ก็ชวนเพื่อนและคนที่รู้จักในคอนโดฯ ให้เข้ามาพูดคุยกัน หลังจากนั้นก็เริ่มจะมีลูกบ้านจากคอนโดฯ อื่นๆ อยากจะพูดคุยด้วยเช่นกัน จึงทำบอร์ดส่วนตัวให้กับคอนโดฯ อื่นๆ ด้วย ทำไปทำมาจากที่คุยกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่ถึงสิบคน ปัจจุบันมีสมาชิกที่เข้ามาพูดคุยกันเกือบหมื่นคนแล้ว"
ยุคแรกๆ ภาณุพยายามเพิ่มเนื้อหา บทความ และข้อมูลเข้าไปด้วยนอกจากกระทู้พูดคุยจากบรรดาผู้อ่าน เขาถึงกับไปตามงานแสดงบ้านและคอนโดฯ เพื่อที่จะนำโบรชัวร์ของโครงการต่างๆ มาขึ้นบนเว็บฯ อยู่เสมอ และยังไปงานวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ทั้งจากในอินเทอร์เน็ตและสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ มาลงในเว็บฯ เพื่อดึงดูดให้มีคนเข้ามาอ่านมากๆ ต่อยอดให้ชุมชนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
"เว็บฯ นี้ถูกบอกต่อๆ กันไปเร็วมาก ทั้งลูกบ้านบอกต่อกันเอง ลูกบ้านไปคุยกับเซลส์โครงการ ทางเซลส์ก็ไปบอกหัวหน้าต่อ รู้ไปถึงเจ้าของโครงการโดยตรงก็มี ลูกบ้านบางแห่งก็อาสาพิมพ์ใบโบรชัวร์เล็กๆ แล้วไปหยอดตามตู้จดหมายของทุกหลังในโครงการที่ตัวเองอยู่ ชวนให้มาเข้า prakard ด้วยกัน
"บางโครงการก็มีเซลส์มาคอยให้ข้อมูลต่างๆ ที่ตรงไปตรงมา ลงรูปว่าก่อสร้างคืบหน้าถึงไหนเป็นระยะๆ" ภาณุเล่าถึงความดังที่เกิดขึ้นแบบปากต่อปากโดยไม่ต้องไปโปรโมตที่ไหน
ปัจจุบันเพียงแค่ 1 ปีผ่านไป prakard.com มีชุมชนคอนโดฯ และหมู่บ้านต่างๆ อยู่รวมเกือบ 1 พันโครงการแล้ว ข้อมูลต่างๆ ก็มีฝ่ายขายของโครงการต่างๆส่งทั้งข่าวและข้อมูลโครงการมาให้ภาณุลงในเว็บบอร์ดเองเลยทีเดียว
เส้นแบ่งที่ต้องชัด
ใน prakard.com ภาณุแยกส่วนที่เป็นชุมชน ข้อมูล และห้องลงประกาศซื้อขายและเช่าอสังหาริมทรัพย์ออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อให้ 2 ส่วนแรกน่าเชื่อถือที่สุด และแม้ส่วนใหญ่เนื้อหาจะถูกส่งขึ้นมาจากพลังผู้บริโภคที่แท้จริง แต่หลายครั้งก็มีการ "ปั่น" หรือแอบเชียร์สร้างกระแสเพื่อโฆษณา
"บางทีก็จะมีเจ้าของโครงการเล็กๆ หรือพวกเซลส์มาคอยโพสต์เชียร์โครงการที่ขายอยู่ โพสต์เองตอบเอง แต่เปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ ให้ดูเหมือนว่าเป็นหลายๆ คน ซึ่งปกติแล้วคนที่เข้าไปอ่านก็จะพอรู้ว่าเป็นเซลส์มาโพสต์เองนะ ก็จะขำกันใหญ่" ภาณุเล่าอย่างขบขันถึงความ "ไม่เนียน" ของโฆษณาแฝง
"บางทีโครงการก็ร้องมาให้ลบข้อความในบางกระทู้ออก เพราะมีคนลงข้อความที่ทำให้บริษัทหรือโครงการดูไม่ดี เสียหาย ซึ่งเราขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าถ้าข้อความนั้นเป็นความจริง ถูกโพสต์โดยลูกบ้านโครงการนั้นเอง เราจะไม่ลบให้เด็ดขาด โครงการต้องไปโพสต์ชี้แจงแก้ข่าวกับผู้ซื้อเอาเอง" ภาณุประกาศกร้าวเลือกข้างผู้บริโภคอย่างชัดเจน
"ลูกบ้านเขาเชื่อถือกันเองมากกว่าเชื่อถือโครงการ แนะนำซื้อของที่นั่น จ้างตกแต่งที่นี่กัน หลายๆ แห่งคุยกันไปคุยกันมา จัดมีตติงนัดเจอกันเป็นกลุ่มแล้วกลายเป็นเพื่อนกันไปเลยก็มาก" ภาณุเล่าพร้อมเปิดบางกระทู้ให้ดูรูปถ่ายงานมีตติงต่างๆ ที่เหล่าผู้ใช้เว็บฯ นัดพบปะกันในโลกภายนอก
เมื่อชุมชนใหญ่และหลากหลายมากขึ้น เกินกำลังภาณุที่จะดูแลได้ทั่วถึง เขาจึงตั้งตัวแทนของลูกบ้านแต่ละโครงการให้อาสามาเป็น “เจ้าบ้าน” (Moderator) เพื่อทำหน้าที่คอยดูแลบอร์ดของโครงการนั้นแทน ซึ่งทุกวันนี้ prakard.com มีผู้อ่านอาสามาเป็นเจ้าบ้านของชุมชนออนไลน์ตัวเองแล้วเกือบ 100 คน
รายได้
สำหรับรายได้ของเว็บฯ ภาณุเล่าว่า "แรกๆ ไม่ประกาศรับโฆษณาเลย เพราะอยากให้เว็บฯ เริ่มมีความนิยมถึงจุดหนึ่งก่อน พอคิดว่ามันใช่แล้วก็เลยเปิดรับโฆษณา แค่คืนเดียวก็มีบริษัทเข้ามาหลายราย เขาคงจ้องจะลงอยู่แล้วก็เป็นได้ ตอนนี้บางรายซื้อโฆษณาข้ามปีเลย และถึงเราจะพยายามหาพื้นที่โฆษณาเพิ่ม แต่ก็จะไม่ให้กระทบเนื้อหาและรูปแบบของตัวเว็บฯ"
ภาณุไม่ลืมย้ำจุดยืนที่ต้องระวังรักษาชุมชนออนไลน์นี้ให้มีคุณค่าแบบเดิมๆ เอาไว้ ไม่ถูกการโฆษณามาทำลาย เพราะพลังเสียงที่แท้จริงของบรรดาผู้บริโภคก็คือพลังที่แท้จริงของเว็บบอร์ดแห่งนี้
ประกาศ.คอม
ที่มา http://www.ecommerce-magazine.com
.
|