Home » ไลฟ์สไตล์, สุขภาพ » คริสปี้ครีม โดนัทมหัศจรรย์ กระแสแรงฟีเวอร์ ..ไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว

การบริหาร/ความรู้ทั่วไป

Web Design by Softbiz+


ว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014

 
คริสปี้ครีม โดนัทมหัศจรรย์ กระแสแรงฟีเวอร์ ..ไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว

          วันเสาร์ที่ผ่านมา(13-11-53)  ผม ไปงานสัมนาที่ สยามพารากอน เห็นคน นั่งต่อแถว ตั้งแต่ห้างยังไม่เปิด รอซื้อ โดนัท ขนาดร้านเปิดมา เดือนกว่า แล้ว ยังคลั่ง กันไม่เลิก ลง มาดูอีกรอบตอนเที่ยง ก็ยังต่อ แถวเป็นร้อยเลย (อดลองของแปลกเลยเรา)

          วันนี้ เจอ หน้า เว็บไทยรัฐ และยังออกทาง ช่อง 3 อีก โอ้ย เอามาลงเว็บเราซะหน่อยแล้วกันครับท่าน เผื่อใครตกข่าว

          คริสปี้ ครีม (Krispy Kreme) แบรนด์โดนัทชื่อดังจากอเมริกา ปลุกกระแสนักชิมคนไทยให้กลับมาทนแดด ทนฝน ทนความลำบาก ในการต่อคิวอันยาวเหยียด เห็นภาพบรรยากาศแบบนี้แล้วชวนให้นึกถึงเมื่อครั้งกระแสโรตีบอย เข้ามาใหม่ๆ ลองมาทายกันว่ากระแสคริสปี้ ครีม จะยังอยู่ในความสนใจของคนกรุงเทพอีกนานแค่ไหน 

ว่าแต่เจ้าโดนัทนี้ มีที่มาอย่างไร 

          คริสปี้ ครีมก่อตั้ง โดย เวอร์นอน รูดอล์ฟ (Vernon Rudoph) ใน ค.ศ. 1937 สูตรลับพิเศษคือ เป็นโดนัทที่มีรสชาติพิเศษ เนื้อแป้งที่นุ่มลิ้น ไม่เหมือนใครด้วยสูตรลิขสิทธิ์ที่เลื่องชื่อให้นักชิมติดใจมาแล้วทั่วโลก มากว่า 70 ปีแล้ว การทำโดนัทเป็นการทำแบบวันต่อวัน และวิธีรับประทานโดนัท คริสปี้ ครีม ให้เอร็ดอร่อยที่สุด คือต้องรับประทานขณะที่ยังอุ่นๆ

          ปัจจุบัน คริสปี้ ครีม มีสาขากว่า 600 สาขา อยู่ในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก อาทิ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา จีน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก ฟิลิปปินส์ เปอร์โตริโก เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร เป็นต้น

เห็นจำนวนคนที่ต่อแถวยาวเฟื้อยแล้ว หลายคนนึกว่ามี 'คอนเสิร์ตดัง' ที่สยามพารากอน เปล่า...! พวกเขา บอกแกมบ่น ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า 'รอมาหลายชั่วโมงๆ แล้ว' คำถามคืออะไรที่ทำให้ โดนัท “คริสปี้ ครีม” รับความนิยมมากขนาดนี้...?

             เปล่า...!   พวกเขาบอกว่าไม่ได้มาดู “2PM” หรือ “ดงบังชิกิ” แต่มาต่อแถวซื้อ “โดนัท คริสปี้ครีม” ต่างหาก แถมยังบ่นเล็กๆ เคล้ารอยยิ้มเหมือนคนมีความสุขว่า รอมาหลายชั่วโมงๆ แล้ว

           คำถามคืออะไรที่ทำให้ โดนัท “คริสปี้ ครีม” ได้รับความนิยมมากขนาดนี้...? มีคนชมว่าเป็น “โดนัท” ที่มากกว่าความอร่อย บางคนปรามาสว่า อีกไม่นานกระแสฮิต “คริสปี้ ครีม” ก็จะจางหายไปใน "สายลมหนาว" คล้ายกับ “การตลาดต่อแถว” ของขนมปังชื่อดังหลายปีก่อน

          เมื่อความคิดคนคือจุดทศนิยมไม่รู้จบ...? ไทยรัฐออนไลน์ เข้าไปพิสูจน์ชีวิตที่น่าสนใจของสาวที่วันนี้ ใครต่างก็เรียกชื่อพ่วงทาย คล้ายนามสกุลใหม่ว่า “อุษณีย์ คริสปี้ ครีม”

โดนัทคำแรก กับความประทับใจที่สุดในชีวิต !!

         เชื่อหรือเปล่า...เรายังจำความรู้สึกตอนกัดแป้งเนื้อนิ่มละมุนราวกับเคี้ยวปุยเมฆคำแรกได้เลย... ตุ๊ก-อุษณีย์ ลีโอณีโอ มหากิจศิริ ทายาทสาวของเนสกาแฟ ที่ทุ่มเงิน 30 ล้านเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ โดนัทสัญชาติอเมริกัน “คริสปี้ ครีม” รายเดียวในบ้านเรา จนกลายเป็นกระแส “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” มากที่สุดในขณะนี้

         “มันเป็นความรู้สึกปิ๊งๆ เราว่าคนที่มาต่อแถวนานๆ ก็มีความรู้สึกดีแบบนั้นเหมือนกัน” แม่ค้าโดนัท ให้เหตุผลย้ำว่า ทำไมคริสปี้ ครีม ถึงได้รับความนิยมมากเพียงชั่วข้ามคืน

        “ก่อนหน้าสารภาพตามตรงจริงๆ ตุ๊กเป็นคนไทยมากๆ เรียน “ธรรมศาสตร์” และอยู่เมืองไทยมาตลอดไม่ใช่เด็กนอก ชีวิตปกติก็กินข้าวหมูกระเทียม กระเพราไก่ไข่ดาว เป็นหลัก แต่จุดเปลี่ยนอยู่ตรงที่ เพื่อนหลายๆ คน มาคุยให้ฟังว่ามีโดนัทยี่ห้อหนึ่งอร่อยมาก (เน้นเสียง) ขายที่นิวยอร์ก คือ กว่าจะได้กินต้องต่อคิวนานมาก แรกๆ ก็ไม่ได้สนใจ แต่พอฟังพล็อตแบบนี้เรื่อยๆ ก็เลยฝากซื้อกินสักหน่อยซิ จะอร่อยสักแค่ไหน ปรากฏว่าพอกัดเนื้อแป้งเข้าไปปุ๊บ จากวันนั้นมันทำให้เราสมัครใจ รักใคร่คริสปี้ ครีม มาตลอด”

           รักขนาดที่ว่า ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ก็ต้องไปชิม คริสปี้ ครีม ต้องให้ต่อคิวนานเป็นชั่วโมงๆ ก็ไม่ท้อถอย จนกระทั่งพอแต่งงานประเทศที่สามีอยู่ก็มี คริสปี้ ครีม เธอก็สามีที่น่ารักแบกโดนัทยี่ห้อโปรดมาให้คราวละ 8 กล่อง

          “ถ้าแบกมากล่องเดียวเราก็จะตัดพ้อว่า “ไม่รักฉันจริงหรือไง...?” เขาก็น่ารักแบกมามอบให้เรากับมือทุกครั้ง” กระทั่งวันหนึ่งคุยกันว่า เมื่อรักและประทับใจโดนัทยี่ห้อดังกันขนาดนั้น อย่ากระนั้นเลย เราน่าจะนำเอาสิ่งดีๆ มาเปิดที่ประเทศไทยดีกว่า

          “สารภาพเลยวันแรกที่ร้านเปิด “งงมาก” เพราะไม่เชื่อว่าจะมีคนที่ชอบคริสปี้ ครีม มากมายขนาดนี้ แต่ถามว่าแปลกใจไหม ไม่แปลก เนื่องจากคนไทยน้ำใจงาม พอได้กินของอร่อยแล้วก็อยากจะแบ่งปันให้คนที่เขารักอีกที ลูกค้าบางคนขับรถมาจากต่างจังหวัดเพื่อซื้อไปฝากคนที่เขารัก บางคน

          ก็ซื้อไปให้คุณพ่อที่เพิ่งผ่าตัด บางคนเขามาต่อแถวตั้งนานพอได้เสร็จเขาก็มาเล่าว่า “ภรรยาชอบคริสปี้ ครีมมากๆ ขอซื้อเกินลิมิตสัก 1 กล่องไปเซอร์ไพร์สภรรยาได้ไหม มันเป็นความรู้สึกดีๆ ที่ส่งต่อๆ กันไป" เธอ เรียกความรู้สึกอุ่นๆ ของแฟนคริสปี้ ครีมแบบนี้ว่าความประทับใจ

     


          แต่ถ้าจะต้องเลือกกล่าวถึง 1 ประสบการณ์ที่ประทับหัวใจมากที่สุดตั้งแต่เปิดร้านนี้มา ทายาทเนสกาแฟ ยิ้มและย้ำว่า น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ล้นเกล้าล้นกระหม่อมอย่างหาที่สุดไม่ได้ ที่พระองค์เสด็จมาแล้วทรงโดนัทด้วย

          “เป็นโดนัทต้นแบบ ซึ่งขณะนั้นกำลังสั่งวัตถุดิบเตรียมตัวที่จะทำขายให้กับประชาชนอยู่เลย ครั้งนั้นทำให้เรารู้สึกว่าเป็น “มงคลของชีวิต” เปรียบเทียบอะไรไม่ได้เลยที่พระองค์ทรงพระกรุณามากๆ ในการเสด็จมาดูการผลิตอย่างใกล้ชิด เป็นพรอันยิ่งใหญ่มากมายจริงๆ” แม่ค้าโดนัทเล่าไปยิ้มไป

เมื่อโดนัทเปิด - ชีวิตก็เปลี่ยน...!

           วันที่นัดพูดคุยกับเรา เป็นวันธรรมดา แต่ทว่าประเมินจากสายตา แม่ค้ามือใหม่อย่างเธอค่อนข้างจะวุ่นวายไม่แตกต่างไปจากวันเสาร์-อาทิตย์ ไหนจะต้องไปดูแลลูกค้า ไหนจะต้องสาละวนแก้ปัญหาจุกจิกๆ ภายในร้านมากมาย จากชีวิตที่เคยสบายๆ ไม่ค่อยใส่ใจกับเวลา พอ “คริสปี้ ครีม” เข้ามาในชีวิตทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป

  


“เปลี่ยนมากค่ะ…” ตุ๊ก ตอบเร็วและหนักแน่น ทุกวันนี้เวลาเรามีค่ามากนะ ตื่นตั้งแต่เช้า ก็ต้องโทรเช็คว่าวัตถุดิบและของต่างๆ มาครบที่ร้านแล้วหรือยัง ถามไถ่เสร็จสายๆ ก็แวะเข้าไปที่ออฟฟิศ เพื่อคุยกับทุกๆ แผนกก่อนร้านจะเปิดจริงๆ 10 โมงเช้า ระหว่างเดินทางมาที่ร้านก็โทรเช็คสถานการณ์ว่า ที่ร้านลูกค้าเป็นอย่างไร ขาดเหลืออะไรไหม บ่ายๆ ก็จะวิ่งเข้าร้านเพราะอยากเห็นสถานการณ์จริง ตกเย็นก็ปลีกตัวมารับลูกที่โรงเรียน

“เราต้องหาโรงเรียนที่ใกล้กับที่ร้านนี้ เพราะเขาชอบดูการทำโดนัท เย็นๆ เราก็แบ่งเอาไปให้ชุมชนแถวนี้ได้กินคริสปี้ครีมกัน จนร้านปิด 4 ทุ่มก็กลับบ้าน อาบน้ำ ดูงานและนอน”

ตกดึกบ่อยครั้งที่กลับไปนอนฝันถึงคริสปี้ ครีมอีก...? ไม่ใช่อำนะ...เธอบอกว่า บางคืนฝันว่ากิน ครีสปี้ ครีมอยู่ บางคืนก็ฝันว่าส่งของไม่ทันแล้วเพราะแป้งหมด เราก็เฮ้ย...สะดุ้งตกใจตื่น

  

“ก่อนจะตัดสินใจเปิดร้านแรกๆ ก็คือว่า “แค่เปิดร้านโดนัท” ไม่นึกว่ามันจะโหด-หินขนาดนี้ กว่าจะได้แบรนด์มา เราต้องคลุกอยู่ที่นั่น 1 เดือนเต็มๆ เพื่อฝึกทำโดนัทเองทั้งหมด ตั้งแต่ยกแป้ง นวดแป้ง ตีแป้ง ทุกอย่างมาตรฐานสูงสุด เขาดูกระทั่งว่า รถของเรามันจะต้องเป็นสแตนเลส ซึ่งแพงมาก คันละหลายหมื่น แล้วรถที่จะขนโดนัทมาส่งมันต้องเป็นแอร์ ควบคุมอุณหภูมิอีก หรืออย่างวัตถุดิบต้องเอามาจากต่างประเทศหมด (ยกเว้นน้ำตาล) วันไหนหมดเร็ว ก็ต้องสั่งของจากเมืองนอก เร็วๆ นี้ น้ำมันหมด ต้องสั่งขึ้นเครื่องมา เพราะน้ำมันบ้านเราใช้ไม่ได้ น้ำมันต้อง 0% และรับรองด้วยมาตรฐานสากล”

เคร่งครัดขนาดที่ว่าการถือโดนัทเมื่อเสร็จแล้วยังต้องนับก้าวให้พอดีทุกครั้ง ตุ๊ก-อุษณีย์ให้เหตุผลว่า ที่ทำแบบนั้นเพื่อความสดใหม่ของสินค้า เป็นมาตรฐาน มันสุดโต่ง ไฮโซมากๆ

เมื่อมองหาก็ค้นพบ - ปรัชญาในโดนัท

แม้จะบ่นอุบ ซึ่งขัดแย้งกับใบหน้าที่เปี่ยมความสุขว่า พบอุปสรรคมากมาย แต่สิ่งต่างๆ กลับไม่ใช่เรื่องที่บั่นทอนความตั้งใจแต่อย่างใด กลับกันมันกลายเป็นเสน่ห์ของชีวิตสำหรับเธอ

“เป็นช่วงชีวิตที่มีสีสันมากๆ เพราะมันไม่น่าเบื่อดี ขนาดกินก๋วยเตี๋ยวยังต้องปรุง ชีวิตต้องมีทุกๆ รส มันถึงจะกลมกล่อม โดนัทมันทำให้เราได้เรียนรู้ชีวิตอะไรได้มากๆ เพราะว่ามุมมองของชีวิตมันเป็นอีกแบบ เราได้เจอคนเยอะขึ้น เราได้เรียนรู้จากเขา ได้สัมผัสกับชีวิตเขา บางทีเขาซื้อมานั่งคุยด้วย เราได้เรียนรู้จักซัพพลายเออร์ของเราด้วย เราเรียนรู้ที่จะแบ่งเวลามากขึ้นด้วย รู้คุณค่าของเวลามากขึ้น รู้คุณค่าของเงินมากขึ้น รู้คุณค่าของชีวิตมากขึ้น ว่าเกิดขึ้นมาชีวิตหนึ่งเราก็สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้คนได้นะ ไม่ใช่เป็นลูกคุณพ่อแล้วอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรที่มันสร้างสรรค์”

ที่สำคัญเราไม่ได้ดูที่ตัวเงินอย่างเดียว เราดูที่รอยยิ้มคนซื้อ แล้วเขาได้ไปแบ่ง อย่างเขาใช้ในงานแต่งงานนะ มันเป็นความสุขที่เงินซื้อไม่ได้ มันมากกว่าเงิน - "เป็นความสุขที่มากกว่าเงิน" แม่ค้ามือใหม่ย้ำคำนี้ !!

คริสปี้ ครีม กับข้อหาจ้างคนมาต่อแถว

เมื่อถามถึงเรื่องเมาท์ที่ว่ากันว่า "คริสปี้ ครีม" จ้างคนมาต่อแถวเพื่อสร้างกระแส เหมือนกลยุทธ์ของ ขนมปังชื่อดังแบรนด์หนึ่งหลายปีก่อน

เจ้าของร้านคริสปี้ ครีม ตอบว่า มีคนสงสัยมากจริงๆ ก็อยากจะบอกตรงนี้ว่า คริสปี้ ครีม มีคนจ้างมาต่อแถวซื้อจริง!!! ซึ่งไม่ใช่พวกเราจ้าง แต่เป็นคุณหญิง คุณนาย ที่เขาจ้างมาต่างหาก

“ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นเลยว่ามีคนที่สวมชุด แมสเซนเจอร์ มอเตอร์ไซค์วิน คนขับรถ เราก็เคยไปคุยกับพวกเขา เขาก็บอกว่า รับจ้างซื้อให้กับคุณหญิงคนนั้น-นี้ วันก่อนมีป้าคนหนึ่งมาบอกเราว่า เอาไหมหนู ถ้าป้าต่อแถวซื้อโดนัทให้ ขอ 200 บาท ในมุมที่ดี เขาก็มีงานทำแล้ว ช่วงนี้ปิดเทอม เขาก็จะชวนลูกหลานมาต่อแถว ส่วนเรื่องเป็น “แค่เทรนด์” หรือไม่นั้น จริงๆ โดนัทมันมีในประเทศไทยเป็นสิบปีแล้ว”

ที่สำคัญปัจจุบันมูลค่าภาพรวมทางการตลาดของ "โดนัท" ก่อนที่คริสปี้ ครีมจะเข้ามา มีมูลค่า 2 พันกว่าล้านบาท การเจริญเติบโต 10 กว่าเปอร์เซนต์ต่อปี จึงไม่แปลกที่วันนี้ มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในตลาดโดนัทเยอะ

คำถามก็คือว่า 2 พันกว่าล้านบาท มันเป็นธุรกิจที่มหาศาล เราคงไม่ใช่เทรนด์ที่มาแล้วก็ไป อย่างที่หลายคนคิด ที่สำคัญแล้วแม้วันนี้คริสปี้ ครีม จะเพ่ิงเข้ามาเปิดตลาดบ้านเราครั้งแรก แต่อย่าลืมว่าคริสปี้ ครีม คือ เบอร์หนึ่งของโลกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

สำหรับแผนการตลาดในอนาคต ตุ๊ก-อุษณีย์ บอกความตั้งใจแบบถ่อมตัวว่า ตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดจากภาพรวมทั้งหมดแค่ 1% จากมูลค่า 20 ล้านบาทก็พอแล้ว

“วันนี้เพิ่ง 1 เดือนเศษ ดังนั้นเรายังไม่คิดเรื่องการรีเทิร์น ส่วนคำถามอยากจะขยายสาขาหรือไม่ ก็อยากให้แฟนๆ ที่อ่านไทยรัฐ ออนไลน์ ช่วยบอกว่าอยากให้เราไปเปิดที่ไหนใกล้บ้านคุณ"

สุดท้ายถ้าวันนี้มีคนถามคุณ ซึ่งเป็น "ทายาทเนสกาแฟ" ว่า ทำอาชีพอะไร...? อุษณีย์ บอกว่า สมัยก่อนคงบอกว่าธุรกิจที่บ้าน แต่ ณ วันนี้ เราก็จะบอกว่า เราเป็นแม่ค้าขายโดนัทได้อย่างเต็มปาก

"จริงๆ เราภูมิใจในตัวพ่อเสมอ ทุกๆ อย่างทั้งชีวิต ที่มีวันนี้ได้ ก็เพราะท่าน มีความรู้การศึกษาได้ก็เพราะท่านสอน-สั่ง แต่ที่มีวันนี้และเป็นอุษณีย์คริสปี้ ครีม ได้ แม้ว่าเราจะไปติดต่อกับสามีเองก็ตาม แต่จะไม่มีความรู้ ไม่ขยันหมั่นเพียรแบบนี้ได้ ถ้าไม่ได้การสั่งสอนจากคุณพ่อ-คุณแม่ เรารู้สึกคุณพ่อเหมือนตำนาน สร้างโรงงานมาใหญ่โตตั้งแต่อายุ 20 กว่า ตอนเด็กๆ ก็เคยฝันเอาไว้ว่า จะสร้างอะไรด้วยตัวเอง อยากจะเก่งๆ เหมือนคุณพ่อบ้าง แม้ว่าตอนนี้คริสปี้ ครีม ไม่ได้ใหญ่โต"

แต่เราก็มีความสุขในการทำงาน ได้เห็นคนยิ้ม ได้แจกรอยยิ้มให้กับคนอื่น เหมือนกับการมอบ ส.ค.ส.แห่งความสุข ด้วย คริสปี้ ครีม.

  

ที่มา  http://www.thairath.co.th/content/life/126695