Home » ข่าวประชาสัมพันธ์ลูกค้าซอฟท์บิส » ตลาดบริหารอาคารชุด-หมู่บ้านจัดสรร ปี 54 แข่งขันรุนแรง

การบริหาร/ความรู้ทั่วไป

Web Design by Softbiz+


ว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014

 
ตลาดบริหารอาคารชุด-หมู่บ้านจัดสรร ปี 54 แข่งขันรุนแรง

 

   วันที่ 22 ธันวาคม 2553

ตลาดบริหารนิติบุคคลอาคารชุด-นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ปี 54 แข่งขันรุนแรง
ชี้รายเล็ก-รายใหญ่เล็งเพิ่มส่วนแบ่ง     500 อาคารทั่วกรุงต้องการมืออาชีพ

          HBIRM เผยตลาดบริหารจัดการอาคารสูงและหมู่บ้านจัดสรรปี 2554 แข่งขันรุนแรง ทั้งบริษัทขนาดเล็กและขนาดใหญ่เล็งเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด ตั้งเป้าทั้งปีรับลูกค้าเพิ่มร้อยละ 15 ย้ำอาคารพักอาศัยกว่า 500 แห่งจะเชื่อมั่นมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ ชี้งานบริการด้านจดทะเบียนรุ่งเนื่องจากอาคารชุดและบ้านจัดสรรกว่า 5,000 แห่งยังไม่ได้เป็นนิติบุคคล

          นายธนันทร์เอก หวานฉ่ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช บี อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HBIRM) อดีตนายกสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดบริหารอาคารและหมู่บ้านจัดสรรว่า ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาตลาดดังกล่าวขยายตัวเพิ่มขึ้นรวดเร็วมาก เนื่องจากลูกค้าทั้งเจ้าของอาคารสูงและหมู่บ้านจัดสรร ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารทรัพย์สินในโครงการมากขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ของประเทศมีสัดส่วนการเข้ามาใช้บริการในธุรกิจบริหารและจัดการมากขึ้น จากเดิมที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก และมักบริการกันเองหรือใช้บริการผู้ที่ขาดประสบการณ์ ทำให้อาคารและทรัพย์สินภายในโครงการบ้านจัดสรรด้อยมูลค่าลงอย่างชัดเจน

          ขณะเดียวกันตลาดดังกล่าวก็มีการแข่งขันกันมากยิ่งขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมามีบริษัทเปิดให้บริการด้านบริหารจัดการเพิ่มขึ้น การแข่งของตลาดมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงมากขึ้นในปี 2554 มีผลทำให้ธุรกิจนี้ต้องมีการปรับตัวและพัฒนาการให้บริการในทุก ๆ ด้าน เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า เนื่องจากบริษัทขนาดเล็กที่มีต้นทุนต่ำมักใช้กลยุทธ์ในการตัดราคาเพื่อให้เกิดการจูงใจใช้บริการ ในขณะที่บริษัทขนาดใหญ่และบริษัทข้ามชาติได้หันมาเจาะตลาดระดับกลางเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่าธุรกิจบริหารจัดการอาคารและหมู่บ้านจัดสรรที่ต้องการอยู่รอดจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการทำงานที่มีคุณภาพ และยกระดับมาตรฐานการทำงานให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในระดับสากล เช่น การพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากร และรักษาบุคลากรที่มีประสบการณ์ เนื่องจากมีแนวโน้มว่าบุคลากรที่มีคุณภาพและมีประสบการณ์ในตลาดจะขาดแคลนอย่างหนัก เชื่อว่าค่าจ้างของคนที่มีคุณภาพในอาชีพนี้จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ

          นายธนันทร์เอก เปิดเผยเพิ่มเติมถึงผลการดำเนินการที่ผ่านมาว่า ตลอดทั้งปี 2553 มีอาคารสูงและหมู่บ้านจัดสรรที่เข้ามาใช้บริการงานด้านบริหารจัดการทั้งสิ้น 70 กว่าโครงการ แยกเป็นอาคารชุด 67% หมู่บ้านจัดสรร 33% สำหรับในปี 2554 บริษัทได้ตั้งเป้าว่าสัดส่วนของอาคารสูงและหมู่บ้านจัดสรร ทั้งในกทม.และต่างจังหวัดที่ HBIRM จะเข้าไปบริหารจัดการนั้นจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 15

          อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้มากว่า 15 ปีจึงเชื่อมั่นว่า อาคารสูงและหมู่บ้านจัดสรรจะมีความเชื่อมั่นและมอบหมายให้บริษัทที่เป็นมืออาชีพเข้าไปบริหารจัดการมากขึ้น ที่สำคัญลูกค้าจะเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องราคาที่ถูกกว่าน้อยลง แต่จะพิจารณาเรื่องผลงานและประสบการณ์ รวมทั้งความเป็นมืออาชีพที่จะทำให้ทรัพย์สินในโครงการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และมั่นใจว่าจำนวนอาคารชุดในกทม.กว่า 500 อาคารจะให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการมากขึ้น โดยเฉพาะการจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุดที่ข้อมูลจากสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทยระบุว่า ยังมีอาคารชุดทั้งในกทม.และต่างจังหวัดจำนวน 1,405 อาคารที่ยังไม่ได้จดทะเบียน ในขณะที่บ้านจัดสรรทั่วประเทศจำนวน 3,763 โครงการที่ยังไม่ได้จดเบียนนิติบุคคลบ้านจัดสรร ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจที่มีความเป็นมืออาชีพและมีความเชี่ยวชาญจะได้รับมอบหมายให้เป็นที่ปรึกษาในเรื่องดังกล่าวมากยิ่งขึ้น

ที่มา   http://www.thaipr.net