ความรัก กับ Programmer และ Tester |
มุมมอง Programming+Testing กับความรัก
-
ตัวเราเองต้องรู้จัก Analyze, Requirement gathering(เก็บความต้องการของเรา) ให้ดีก่อนจะ Develop และ Implement เรื่องความสัมพันธ์ แต่อย่าลืมเรื่อง Testing ด้วย ถ้าขาดเรื่อง Testing สุดท้ายมันก็เปล่าประโยชน์ จบไม่สวย ส่งของให้ลูกค้าไม่ได้
-
Best practice เกิดขึ้นได้เสมอในโลก IT เหมือนในชีวิตเราถ้าไม่เคยพบกับปัญหา อนาคตเราเจอก็จะไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร
-
Compatible (การเข้ากันได้) นี่ก็สำคัญ พวก Programmer มักไม่ค่อยคิดกัน คิดแต่จะ Program กันแต่ platform ที่ตัวเองใช้ โดยไม่คิดถึงว่าคนรอบข้างเค้าใช้ platform ไหนอยู่ เช่น เขียนโปรแกรมมาซะหน้าตาสวยหรูดี แต่ใช้งานบน windows 7 ไม่ได้ ดันใช้ได้แต่ Windows 98 ดังนั้น เราต้องรู้ว่ามีใครเค้าใช้ระบบอะไรบ้างในการใช้งานจริงๆ
-
ถ้าใช้งานไม่ได้จริงๆ เราก็แก้ Code กัน ถ้าเป็น Bug เล็กๆน้อยๆ ก็คงแก้ไม่ยาก แต่แก้เรื่อง Compatible นี่คงใช้เวลานาน อาจต้องรื้อ Code ใหม่หมด ซึ่งเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์
-
การแก้ Code มันย่อมมีการไปกระทบกับ Module ที่ทำงานอื่นที่เกี่ยวข้องกัน ดังนั้นแล้วเราต้องระมัดระวังในจุดนี้มากๆ ถ้า Bug ไม่รุนแรงมาก ก็ไม่น่าจะเป็นไร แต่ใครจะไปรู้ว่าใน Code ที่เราไปโดนนั้น มันอาจจะทำให้ Out-Of-Memory หรือ Program นั้น crash ไปเลยก็เป็นได้
-
หา Bug เจอแต่เนิ่นๆ ย่อมดีกว่ามาเจอตอน Code มาเป็นหมื่นๆแสนๆ Line of Code ดังนั้นแล้ว Programmer ต้องตรวจสอบตัวเองด้วยว่า Code ที่ตัวเองทำมามันโอเคไหม อาจเชคด้วยตัวเอง หรือจะเป็นการ Cross Check กับคนอื่นที่เราไว้ใจได้ ไม่งั้นแล้วมาเจอทีหลัง ก็ไม่ต่างอะไรกับปัญหา Compatible
-
Programmer แม้จะเป็นคู่ปรับกับ Tester ยังไงแล้วก็ต้องทำงานร่วมกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเสมอๆ ไม่งั้นแล้วใครจะ Code ให้ ใครจะ Test ให้
-
มุมมองสองคนนี้ต้องต่างกันอยู่แล้ว แต่ต่างคนต้องต่างรับฟัง แล้วเอามาพิจารณาด้วยเหตุผลและความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นด้วยตัวเอง ถึงทำงานไปได้เรื่อยๆ
ที่มา https://charathbank.wordpress.com/2011/01/19/love-vs-programming/
|