ไทยรัฐออนไลน์  2 มกราคม 2554 โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ           

ธปท.ชี้ แนวโน้มตลาดอสังหาฯ โดยรวมยังสดใส แม้มาตรการกระตุ้นภาครัฐ จะสิ้นสุดลงไปตั้งแต่กลางปี 53 เผย มีจำนวนที่อยู่อาศัยอาศัยเปิดขายใหม่สะสม 11 เดือน สูงถึง 104,000 หน่วย ทำให้ยอดรวมทั้งปีสูงกว่า ที่คาดการณ์ไว้ที่ 100,000 หน่วย...

วันที่ 2 ม.ค.​นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ (ธปท.) เปิดเผยถึง แนวโน้มอุปทานที่อยู่อาศัยในระยะต่อไปว่า อุปทานใหม่ในเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากที่อยู่อาศัยขายใหม่ ที่มีจำนวนสูงถึงประมาณ 14,000 หน่วย ในจำนวนนี้มีอาคารชุดอยู่ถึงประมาณ 10,000 หน่วย ส่งผลให้ขณะนี้มีจำนวนที่อยู่อาศัยอาศัยเปิดขายใหม่สะสม 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) สูงถึงประมาณ 104,000 หน่วย ซึ่งจะทำให้ยอดรวมทั้งปีสูงกว่า ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 100,000 หน่วย

ทั้งนี้ ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ ล่าสุด ในเดือนพฤศจิกายน โดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี หลังจากสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงกลางปี 2553 ที่ผ่านมา โดยอุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ แม้จะชะลอลงเมื่อเทียบกับช่วงที่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2553 ยอดการโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 146,757 หน่วย เพิ่มขึ้นจาก 128,272 หน่วย ในระยะเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับด้านอุปทานที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สะสม 10 เดือนแรกของปี มีจำนวน 79,955 หน่วย เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 72,948 หน่วยในระยะเดียวกันของปีก่อน

“เดือนพฤศจิกายนคาดว่าอุปสงค์ยังคงเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ สะท้อนจากจำนวนที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อปล่อยใหม่จากธนาคารพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 6,095 หน่วยมาอยู่ที่ 7,763 หน่วย” นายเมธีกล่าว

สำหรับตลาดบ้านเดี่ยว บ้านแฝด อุปสงค์เริ่มปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ หลังจากที่ลดลงมากในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากผู้บริโภคหันมาสนใจซื้อที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดมากขึ้นในปีนี้ ส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2553 อุปสงค์และอุปทาน โดยรวม จึงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน ด้านยอดอนุมัติสินเชื่อปล่อยใหม่จากธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นจาก 2,092 หน่วยในเดือนก่อน เป็น 2,481 หน่วย สะท้อนว่าอุปสงค์ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตลาดทาว์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ ฟื้นตัวดีจากผลมาตรการกระตุ้นฯ โดยอุปสงค์ในช่วง 10 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น 6.5% และอุปทานเพิ่มขึ้น 38.8% จากช่วงระยะเดียวกันของปีก่อน สำหรับแนวโน้มอุปสงค์ในช่วงหลังมาตรการสิ้นสุดลง พบว่า ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ และคาดว่า อุปสงค์ในเดือนพฤษภาคม 2553 จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน สะท้อนจากยอดอนุมัติสินเชื่อปล่อยใหม่จากธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มจาก 2,332 หน่วย ในเดือนก่อนเป็น 2,738 หน่วย

ขณะที่ ตลาดอาคารชุด จากมาตรการการกระตุ้นฯและพฤติกรรมผู้บริโภคที่สนใจซื้ออาคารชุดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปี ยอดโอนกรรมสิทธิ์ขยายตัวถึง 34.6% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดสร้างเสร็จจดทะเบียนขยายตัวที่ 6.4% สำหรับอุปสงค์ในช่วงหลังมาตรการฯ สิ้นสุด ได้ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แต่เริ่มปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ และคาดว่าอุปสงค์ในเดือนพฤศจิกายน จะปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน สะท้อนจากยอดได้รับอนุมัติสินเชื่อปล่อยใหม่จากธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นจาก 1,671 หน่วยในเดือนก่อน เป็น 2,544 หน่วย

นอกจากนี้ ธปท.ยังรายงานยอดสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายนว่า ขยายตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนที่ 14.3% ชะลอลงตามอุปสงค์ จากที่เร่งตัวเฉลี่ยประมาณ 16.2% และ 14.6% ในไตรมาส 2 และ 3 ของปี ขณะที่ยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการยังคงหดตัว 7.5% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัย ปรับเพิ่มขึ้น 118.6 จาก 113.5 ในเดือนก่อน เป็นผลจากการเพิ่มของราคาที่ดินประกอบกับมีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้น