Home » แฟ้มข่าว อสังหาริมทรัพย์ » เรื่องจริงผ่านจอ ฆ่าโหดชิงทรัพย์ ในคอนโด - ฆาตรกรใช้ช่องว่างของระบบรักษาความปลอดภัยเป็นเครื่องมือในการก่อเหตุ สะเทือนขวัญ นี่คือภัยใกล้ตัวของวิถีชีวิตคนเมือง

การบริหาร/ความรู้ทั่วไป

Web Design by Softbiz+


ว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014

 
เรื่องจริงผ่านจอ ฆ่าโหดชิงทรัพย์ ในคอนโด - ฆาตรกรใช้ช่องว่างของระบบรักษาความปลอดภัยเป็นเครื่องมือในการก่อเหตุ สะเทือนขวัญ นี่คือภัยใกล้ตัวของวิถีชีวิตคนเมือง

เรื่องจริงผ่านจอ ฆ่าโหดชิงทรัพย์ คอนโดลาดพร้าว ออกอากาศ 4/9/51 ทางช่อง 7

ฆาตรกรใช้ช่องว่างของระบบรักษาความปลอดภัยเป็นเครื่องมือในการก่อเหตุ สะเทือนขวัญ นี่คือภัยใกล้ตัวของวิถีชีวิตคนเมือง

คนร้าย อาศัย จังหวะมีคนเปิดประตู คีย์การ์ด เดินตามเข้าไป วนเวียนหาเหยื่อภายในอาคาร
คิดว่าคงจะตระเวนไปลองบิดลูกบิด ทุกห้องว่าจะมีห้องไหนไม่ได้ล็อคลูกบิดหรือใส่กลอน
หรือห้องไหนเผลอเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ว่าไม่มี คนร้ายใช้เวลาเดินอยู่ในตึก 30 นาที
คนร้ายกลับลงมาที่ประตูคีย์การ์ด แต่ เนื่องด้วย คนร้ายไม่มีคีย์การ์ด จึงไม่สามารถ แตะเปิดประตูได้
จังหวะเดียวกันกับที่ผู้เคราะร้าย กลับมาจากที่ทำงาน เดินมาแตะบัตรเพื่อขึ้นห้องพัก
คนร้ายหันหลังเดินตามกลับขึ้นไปทันที
เมื่อผู้เคราะร้ายเปิดประตูเข้าห้องพักคนร้าย ใช้จังหวะนี้ผลักผู้เคราะร้ายเข้าห้อง แล้วก่อเหตุฆาตกรรมชิงทรัพย์
ที่เกิดเหตุเป็น คอนโดแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว
อาคารที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดเฉพาะที่หน้าประตูคีย์การ์ด
รปภ. หรือผู้พักอาศัย ณ อาคารที่เกิดเหตุ ก็ไม่ได้ ระแวดระวังเลยว่าใครจะขึ้นจะลงอาคาร
ประกอบกับ ไม่มีกล้องวงจรปิด ภายในอาคาร ระหว่างชั้น ทำให้ รปภ. ไม่สามารถเห็นพฤติกรรม การเดินสอดส่องช่องโจร ของคนร้ายได้
มีเพียง ผู้พักอาศัย บางคน เห็นพิรุธคนร้ายแต่ไม่ได้สนใจ
ถ้าภายในคอนโด มีกล้องวงจรปิด ระหว่างชั้น รปภ หรือเจ้าหน้าที่ ที่สังเกตุ หน้าจอกล้องวงจรปิด อย่างน้อย เจ้าหน้าที่ก็จะต้องเห็นพิรุธว่ามีคนร้ายเข้ามาเดินด่อม ๆ มอง ๆตามชั้นต่าง ๆ ในตึก แล้วรีบจู่โจมขึ้นไป ตรวจสอบ ก่อนที่จะเกิดเหตุได้
นี่แหละครับ อุทาหรณ์ ของการ ติดกล้องวงจรปิด ไม่ทั่วถึง  อย่างน้อยมีกล้องวงจรปิดทั่วถึง ก็เหมือนเรามีตาสัปรด คอยสอดส่องทุกซอกทุกมุม
เพราะสิ่งที่มันเกิดขึ้น หรือมันเสียไปแล้ว มันได้ไม่คุ้มเสียหรอกครับ