อสังหาตั้ง"วอเตอร์รูม"รับมือน้ำท่วม "LPN-เพอร์เฟค-ซื่อตรง"

          อสังหาฯงัดแผนฉุกเฉินรับมือน้ำท่วมกรุง "แอล.พี.เอ็น.ฯ" ประเมินกรุงเทพฯน้ำท่วมแน่ ตั้งทีมวอร์รูม จัดแผนป้องกัน 80 โครงการคอนโดฯแยกเป็น 3 ระดับ "สีแดง-สีเหลือง- สีเขียว" เสริมแนวป้องกันริมแม่น้ำ- คูคลอง ประสานงานอย่างใกล้ชิด "เพอร์เฟค" เกาะติด 10 โครงการในจังหวัดนนทบุรีและรามคำแหง หลังเจอน้ำท่วมขังทางเข้า-ออกโครงการ ด้าน "ซื่อตรงกรุ๊ป" งดใช้ทางเข้าออกด้านหลังโครงการบ้านซื่อตรงบางใหญ่และสายไหมชั่วคราว สั่งก่อกำแพงอิฐ 1.20 เมตร กันน้ำทะลัก

          นายจรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด ในเครือ บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) ผู้บริหารชุมชนโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ "ลุมพินี" รวม 80 ชุมชน 188 อาคาร กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงกว่าทุกปี ทำให้บริษัทประเมินสถานการณ์ว่ามีโอกาสที่น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือปริมาณ น้ำเหนือที่ถูกปล่อยมาจากเขื่อนที่จะทยอยไหลลงมาสู่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 13-18 ตุลาคม 2554

          นับตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทจึงได้ตั้งทีมเฉพาะกิจภายใต้คอนเซ็ปต์ "วอเตอร์รูม" (วอร์รูม) บริหารจัดการโครงการในภาวะวิกฤตน้ำท่วม โดยใช้ศูนย์ Call Center ที่มีอยู่ แต่ยกระดับการปฏิบัติงานขึ้นมา เพื่อเป็นแกนกลางประสานการดำเนินการป้องกันผลกระทบจากน้ำท่วม โดยเฉพาะ "ห้องควบคุม" (ห้องควบคุมระบบไฟฟ้า) ภายในคอนโดมิเนียมลุมพินีทั้งหมด และติดตามสถานการณ์ระดับน้ำตามแม่น้ำและคลองต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด

          โดยได้วางแผนจัดลำดับโครงการที่ต้องเฝ้าระวังออกเป็น 3 ระดับคือ 1) ระดับสีแดง หมายถึง โครงการที่อยู่ในพื้นที่ใกล้หรือติดแม่น้ำ-ลำคลอง เดิมมี 8 โครงการ เพิ่มเป็น 12 โครงการ อาทิ โครงการลุมพินีพาร์ค ริเวอร์ไซด์-พระราม 3, ลุมพินีเพลส นราธิวาส-เจ้าพระยา, ลุมพินีวิลล์ ประชาชื่น-พงษ์เพชร (ใกล้คลองเปรมประชากร) ฯลฯ ได้เสริมแนวป้องกันกำแพงให้สูงขึ้นจากเดิมอีก 0.50-1 เมตร รวมถึงเตรียมเครื่องสูบน้ำประจำโครงการ  2) ระดับสีเหลือง หมายถึง โครงการที่ไม่ได้อยู่ใกล้แม่น้ำหรือคลอง แต่ตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่รับน้ำหรือพื้นที่สุ่มเสี่ยงน้ำท่วมที่ กทม.ประกาศ มี 4 โครงการ เตรียมเครื่องสูบน้ำไว้ประจำโครงการ และ 3) ระดับสีเขียว โครงการที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มี 64 โครงการ

         โดยทีมเฉพาะกิจ "วอเตอร์รูม" ที่ จัดตั้งขึ้น จัดเตรียมกระสอบทราย 1 หมื่นถุง และปั๊มสูบน้ำส่วนกลาง ส่วนโครงการที่มีลานจอดรถใต้ดิน อาทิ ได้แจ้งให้ปิดการใช้ชั่วคราวและให้ไปใช้อาคารจอดรถแทน

        "ประเมินว่าครั้งนี้มีโอกาสที่กรุงเทพฯน่าจะน้ำท่วม แผนรับมือน้ำท่วมฉุกเฉินที่เตรียมไว้ประเมินการป้องกันระดับน้ำท่วมไว้ที่ 1 เมตร แต่ถ้าน้ำมาเร็วและสูงก็จะต้องระดมเครื่องสูบน้ำออกโดยเร็ว"

         นายธงชัย ปิยะสันติวงศ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีบ้านจัดสรรรวมประมาณ 10 โครงการที่ต้องเฝ้าระวังแยกเป็นทำเล จ.นนทบุรี 9 โครงการ และทำเลรามคำแหง 1 โครงการ อย่างทำเลซอยท่าอิฐได้รับรายงานว่ามีน้ำท่วมเป็นช่วง ๆ สูงประมาณ 0.50-1 เมตร ส่วนรามคำแหงมีน้ำท่วมขังทางเข้าออกประมาณ 20 เซนติเมตร

         สิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้วคือนำกระสอบทรายกั้นตามฝั่งที่ติดริมคลอง หรือจุดที่น้ำจะทะลักเข้ามา โครงการละประมาณ 200-300 ถุง เครื่องสูบน้ำโครงการละ 4-10 ตัว และเวรยามเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง กรณีมีน้ำไหลท่วมเข้ามาในโครงการก็จะเร่งสูบน้ำออกในทันที พร้อมทั้งมอบหมายให้ผู้อำนวยการโครงการติดตามสถานการณ์และประสานงานกับบริษัทอย่างต่อเนื่อง

        "เดิมทีเราเตรียมตัวไว้ แต่ตอนนี้แผนที่เตรียมไว้ไถูกนำออกมาใช้แล้ว ถึงตอนนี้เชื่อว่าสามารถป้องกันน้ำไม่ให้เข้าโครงการได้"

          นายรุ่งรัตน์ ลิ่มทองแท่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซื่อตรงกรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ "บ้านซื่อตรง" กล่าวว่า บริษัทได้สร้างแนวป้องกันโครงการ 2 แห่ง คือ บ้านซื่อตรงบางใหญ่และ บ้านซื่อตรงสายไหม ทั้ง 2 โครงการ อยู่ติดคลอง โดยได้ปิดทางเข้าออกโครงการด้านหลังซึ่งอยู่ใกล้กับคลอง โดยก่อเป็นกำแพงอิฐความสูง 1.20 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้ามา พร้อมทั้งได้เตรียมทรายบรรจุใส่กระสอบไว้จำนวน 100-200 ถุง เพื่อเตรียมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน

          ส่วนบริเวณคลอง ทางเทศบาลได้ก่อคันดินขึ้นสูง 0.80 เมตรยาวตลอดแนว ส่วนรั้วโครงการซึ่งมีความสูง 2 เมตรก็ได้นำดินมาเสริมเพื่อให้หนาแน่นขึ้น และคิดว่าน่าจะป้องกันอยู่

ที่มา : prachachat.net วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554