Home » แฟ้มข่าว อสังหาริมทรัพย์ » ผลกระทบวิกฤติน้ำท่วมต่อธุรกิจอสังหา การเลือกที่อยู่อาศัย คำนึงถึงทำเลที่ตั้ง มุ่งใจกลางย่านธุรกิจ และความต้องการคอนโดฯเพิ่มขึ้น

การบริหาร/ความรู้ทั่วไป

Web Design by Softbiz+


ว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014

 
ผลกระทบวิกฤติน้ำท่วมต่อธุรกิจอสังหา การเลือกที่อยู่อาศัย คำนึงถึงทำเลที่ตั้ง มุ่งใจกลางย่านธุรกิจ และความต้องการคอนโดฯเพิ่มขึ้น

วันที่ 1 พฤศติกายน 2554 : อสังหาริมทรัพย์

น้ำท่วมปรับพฤติกรรมการซื้อบ้าน ดันดีมานด์ที่อยู่อาศัยศัยใจกลางย่านธุรกิจพุ่ง ความต้องการคอนโดฯเพิ่ม

           ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ข้ามชาติ เปิดเผยว่า ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบันต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย มีระดับความรุนแรง และขอบข่ายที่แตกต่างกันในแต่ละภาคธุรกิจ โดยในระยะสั้น ธุรกิจทั่วไปจะชะลอตัวลง เพราะประชาชนต่างกำลังแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของตนเองในเรื่องน้ำท่วม

          ในภาพรวม วิกฤตน้ำท่วมที่เกิดขึ้น จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบความต้องการด้านที่พักอาศัยในเรื่องของทำเลที่ตั้ง และลักษณะที่พักอาศัย ในเรื่องทำเลที่ตั้ง ย่านใจกลางธุรกิจ หรือ ซีบีดี  ซึ่งได้แก่ ลุมพินี เพลินจิต สีลม  สาทร และสุขุมวิทในตอนต้น น่าจะเป็นย่านที่ได้รับความนิยมสูงขึ้น เนื่องจากเป็นเขตศูนย์กลางธุรกิจที่จะได้รับการป้องกันเป็นพิเศษ ขณะที่ทำเลอื่นจะมีการประเมินอีกครั้งหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมได้ผ่านพ้นไปแล้ว ว่าทำเลใดปลอดภัยจากน้ำท่วมมากกว่า  

           ความต้องการที่พักอาศัยแนวสูง หรือคอนโดมิเนียมที่เป็นอาคารสูงจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น  เนื่องจากประชาชนอาจจะต้องการซื้อเพื่อใช้เป็นบ้านหลังที่สองในย่านใจกลางเมืองเพื่อเป็นที่พักสำรอง

           ผู้ที่จะซื้อที่พักอาศัยในอนาคต จะให้ความสำคัญกับการออกแบบโครงการที่คำนึงถึงการป้องกันน้ำท่วม และจะพิจารณามาตรการในการป้องกันน้ำท่วมของแต่ละอาคารเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการในตลาดบ้านพักอาศัย โดยเฉพาะโครงการใหม่จะจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ ด้วยการออกแบบของโครงการที่คำนึงถึงความเสี่ยงที่จะเกิดจากน้ำท่วมในอนาคต  

           ส่วนตลาดบ้านพักตากอากาศในพัทยา ชลบุรี หัวหิน ชะอำ และจังหวัดอื่น ๆ ในละแวกใกล้เคียงจะได้รับประโยชน์จากวิกฤตในครั้งนี้ เพราะผู้ที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครที่มีกำลังซื้อจะมีแนวโน้มที่จะซื้อบ้านพักตากอากาศนอกเขตกรุงเทพฯที่อยู่ในระยะขับรถประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง  ซึ่งสังเกตได้ชัดจากการที่ในปัจจุบันมีคนกรุงเทพฯ จำนวนมากอพยพไปยังพัทยาและหัวหินจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้

           นอกจากนี้ การที่คนกรุงเทพฯอพยพออกนอกเมืองยังเอื้อประโยชน์ต่อตลาดโรงแรมและตลาดเช่าที่พักอาศัย ซึ่งซีบี ริชาร์ด เอลลิสเห็นถึงอัตราการเข้าพักที่ปรับตัวสูงขึ้นของโรงแรมระดับกลาง เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และอพาร์ตเมนต์ในย่านใจกลางเมืองและจังหวัดใกล้เคียง เช่น พัทยา หัวหิน และแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆจากผู้อพยพจากกรุงเทพฯ

           ในทางตรงกันข้ามโรงแรมระดับบนในกรุงเทพฯ มีอัตราการเข้าพักที่ลดต่ำลง ซึ่งเป็นผลมาจากการยกเลิกการจองห้องพักของกลุ่มลูกค้าทัวร์จากต่างประเทศ กลุ่มที่มีการจัดประชุม และเป็นผลจากการประกาศเตือนเรื่องการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย

           อย่างไรก็ตาม ซีบี ริชาร์ด เอลลิส เชื่อว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ และคาดว่าปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วทันทีที่วิกฤติน้ำท่วมจบลง  

           ในส่วนของตลาดอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกนั้น จะได้รับผลกระทบน้อยมากและในระยะสั้น ตลาดอาคารสำนักงานในปัจจุบันกำลังประสบกับการชะลอตัวใน เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ชะลอการตัดสินใจ  ในขณะที่ธุรกิจค้าปลีกที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำท่วมมียอดขายลดลงหรือต้องปิดตัวลง  

          ในระยะยาว ผู้ค้าปลีกต่าง ๆ อาจจำเป็นต้องทบทวนกลยุทธ์ในการกระจายสินค้า และพิจารณาการกระจายตัวของศูนย์กระจายสินค้าให้มากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะช่วยลดผลกระทบจากวิกฤตอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต   ทว่า ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ยังเชื่อว่า ธุรกิจค้าปลีกจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

           ตลาดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ธุรกิจอุตสาหกรรม    ในปัจจุบัน ยังเป็นการยากที่จะประเมินว่า การฟื้นตัวของตลาดจะต้องอาศัยระยะเวลานานเท่าใด   แต่สำหรับในระยะสั้น  ผลกระทบนั้นมีความรุนแรง ประกอบกับการหยุดชะงักที่กระจายไปในวงกว้างทั้งในภาคการผลิตและช่องทางการกระจายสินค้า    การพลิกฟื้นของสถานการณ์จะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของรัฐบาลในการกำหนดมาตรการช่วยเหลือเป็นสำคัญ รวมทั้งมาตรการจากเจ้าของนิคมอุตสาหกรรมแต่ละแห่งในการที่จะทำให้โรงงานต่าง ๆ สามารถกลับมาเริ่มดำเนินการได้อีกครั้ง    

           นับจากนี้ไป ในขณะที่ภาคการผลิตในปัจจุบันจะเริ่มกลับมาเปิดดำเนินงานอีกครั้ง   สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับรัฐบาล คือ การสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาและมีการดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องน้ำอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันมิให้ภัยพิบัติในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในอนาคต    มิเช่นนั้น ประเทศไทยจะตกอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียความน่าเชื่อถือจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอาจถอนการลงทุนในประเทศไทย

           โดยภาพรวมแล้ว แผนการฟื้นฟูประเทศของรัฐบาลจะเป็นหัวใจสำคัญต่อทุกภาคธุรกิจในตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งจะส่งผลโดยตรงต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมและทิศทางของประเทศไทยในปีหน้าและในระยะยาว

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com