suthichaiyoon.com วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

น้ำท่วมไม่ฉุดราคาอสังหาฯจ่อขึ้น 10%

        สมาคมประเมินราคาชี้ทำเลน้ำท่วม-ไม่ท่วม ไม่กระทบราคาประเมิน หากเป็นทำเลศักยภาพ ด้าน สมาคมจัดสรรเชื่อต้นทุนค่าแรงและค่าขนส่งเพิ่ม ดันราคาบ้านขึ้น 5-10% หวั่นปัญหาบริษัทประกันภัย หวังรัฐสร้างความเชื่อมั่นกระตุ้นภาคประกันภัย

        วันที่ 2 ก.พ.55 สมาคมนักประเมินราคาอิสระไทย จัดสัมมนาวิชาการหัวข้อ “อสังหาริมทรัพย์ หลังน้ำลด ทิศทางและมาตรการฟื้นฟู” โดยมีนายกสมาคมด้านอสังหาริมทรัพย์ ผู้ประกอบการ และนักวิเคราะห์ ร่วมเป็นวิทยากร

        นายไพรัช มณฑาพันธุ์ นายกสมาคมนักประเมินราคาอิสระไทย กล่าวว่า ทำเลน้ำท่วมหรือน้ำไม่ท่วมนั้น ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะทำให้ประเมินราคาที่ดินสูงขึ้นหรือต่ำลง เพราะโดยปกติแล้วการประเมินราคาที่ดินขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย ได้แก่ กฎหมาย ศักยภาพของทำเล และอำนาจการซื้อ อีกทั้งเป็นการประเมินในระยะยาว แต่ผลกระทบจากน้ำท่วมหากมีผลต่อราคาก็จะเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ และราคาลดลงประมาณ 10-15% เท่านั้น

        “ปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้ เป็นการบริหารจัดการน้ำผิดพลาด ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นเป็นประจำ ผมเชื่อว่าปีนี้ไม่น่าจะเกิดปัญหาเดียวกันอีก และเมื่อประเมินในระยะยาว พื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมอย่างบางบัวทองก็เป็นพื้นที่ที่จะมีรถไฟฟ้าเข้าถึง มีสาธารณูปโภคที่ดี ไม่มีทางที่ราคาที่ดินในบริเวณดังกล่าวจะตกลงแบบถาวร”

         ด้านนายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ราคาบ้านและที่ดินในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่น้ำท่วมหรือน้ำไม่ท่วมไม่มีแนวโน้มลดลง แต่จะปรับขึ้นเนื่องจากมีต้นทุนการก่อสร้างสูงขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำและค่าขนส่ง อีกทั้งความต้องการซื้อบ้านในทำเลน้ำท่วมยังมี ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อบ้านระดับ 3 ล้าน ยังคงต้องการอยู่ในทำเลเดิม เพื่อความสะดวกในการทำงาน

        “พระราม 7 บริเวณที่เคยเกิดน้ำท่วม มีคนเคยประกาศขายที่ดิน 2 ไร่ ในราคา 115,000 บาท/ตารางวา มาวันนี้เพิ่มราคาขึ้นไปอีกกลายเป็น 130,000 บาท อีกทั้งในเดือนนี้ ผู้บริโภคก็เริ่มกลับมาซื้อบ้านมากขึ้น ดีกว่าที่คาดไว้ เมื่อสถานการณ์ความเชื่อมั่นดีขึ้น และมีการปรับขึ้นค่าแรงอย่างชัดเจน คงส่งผลกระทบต่อราคาบ้าน 5-10%”

          นอกจากนี้ ทำเลที่เกิดน้ำท่วมหลายทำเล เป็นทำเลที่จะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง สีแดงอ่อน สีแดง และสีน้ำเงิน หากไม่มีการชะลอการก่อสร้างโครงการดังกล่าว หรือมีการเร่งก่อสร้างโครงการดังกล่าวให้เร็วขึ้น จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคได้

         นายอิสระกล่าวว่า สำหรับปัญหาของผู้ประกอบธุรกิจในขณะนี้คือ การหาบริษัทมารับประกันภัยน้ำท่วม เพราะเมื่อติดต่อไปแล้วพบว่า หลายแห่งไม่ยอมรับประกัน ทำให้ผู้ประกอบการบางแห่งใช้วิธีประกันภัยให้กับผู้บริโภคเองเพื่อเรียกความเชื่อมั่น โดยตั้งเป้าไว้ว่าประกันน้ำท่วมให้กับผู้บริโภค 3 ปี หากเกิดน้ำท่วมขึ้นในระยะ 3 ปีนี้ ก็จ่ายให้ผู้บริโภค 100,000 บาท หากพ้น 3 ปีไปแล้วก็ไม่ประกันให้

         "ทางสมาคมฯ ได้ติดต่อไปทางสมาคมประกันวินาศภัย เพื่อติดต่อเจรจาเรื่องประกันภัยให้แก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับที่ดี จากนั้นจึงได้ติดต่อไปยังบริษัทประกันภัยรายหนึ่ง ผลปรากฏว่าบริษัทยินดีรับประกัน แต่ให้รับประกันในวงเงินที่ต่ำเพียง 30,000 บาทเท่านั้น หากภาครัฐมีการบริหารจัดการน้ำที่ชัดเจน เชื่อว่าสถานการณ์เรื่องการประกันภัยแก่อสังหาริมทรัพย์จะดีขึ้น" นายอิสระกล่าว 

ยอดจองบ้านจัดสรรถูกยกเลิก 5-10%หลังน้ำท่วม แต่ราคายังไม่ลด-คาดผุดคอนโดแทน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)  วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555

            นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยในงานสัมมนาเรื่อง"อสังหาริมทรัพย์หลังน้ำลด ทิศทางและมาตรการฟื้นฟู"ว่า จากการร่วมทำเวิร์คช็อปกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ 31 บริษัท ซึ่งอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมของกรุงเทพ พบว่าโครงการที่ขายแล้วมีลูกค้ายกเลิกเฉลี่ย 5-10% โดยบางรายยกเลิกสูงสุด 30%

           ทั้งนี้ พบว่าบ้านระดับราคา 3 ล้านบาท ลูกบ้านไม่ย้ายที่อยู่ เพราะแหล่งงานอยู่บริเวณเดียวกับบ้าน ส่วนบ้านระดับ 10 ล้านบาท ลูกบ้านตัดสินใจง่าย เพราะกลุ่มนี้มีบ้านมากกว่า 1 หลัง ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการเห็นว่าต้องมีการกระจายทำเลในการพัฒนาโครงการในอนาคต
 
           ขณะที่ราคาขายบ้านในโซนที่ถูกน้ำท่วมไม่ลดลง แต่จะมีการทำโปรโมชั่นกระตุ้นการโอนกรรมสิทธิ ขณะเดียวกัน การประเมินราคาที่ดินก็ไม่ได้ลดลงเช่นกัน เพียงแต่ผู้ประกอบการอาจชะลอการซื้อที่ดินใหม่จนกว่าแนวโน้มตลาดจะชัดเจน คาดว่าจะใช้เวลา 3-6 เดือน

          ใน 31 บริษัทที่ร่วมทำเวิร์คช็อป พบว่ามีแนวคิดจะพัฒนาคอนโดมิเนียมหรืออาคารชุด 2 บริษัท และ อีก 10 บริษัทมีแนวคิดที่จะปรับตัวด้วยการพัฒนาที่อยู่อาศัยหลายประเภท แต่ทุกบริษัทมีความกังวลว่าสถาบันการเงินจะปล่อยสินเชื่อลดลงตามการประเมินที่ดินลดลง และทุกบริษัทต้องการให้รัฐบาลประกาศมาตรการเร่งด่วนในการจัดการบริหารน้ำ

          นายอิสระ กล่าวว่า ในปี 55 มองว่าเป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการอาคารชุดในเมืองที่จะพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น เพราะเชื่อว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของประเทศน่าจะหดตัวในช่วง 2 ไตรมาสแรก และจะฟื้นตัวในไตรมาส 3/55

          ด้านนายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์เฟรงค์ ชาร์ตเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลกระทบจากน้ำท่วมในเชิงบวกต่ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่ ได้แก่ พัทยา หัวหิน  พบว่า ในปี 54 อ.หัวหินมีโครงการเปิดตัว 7 พันยูนิต โดยเป็นของโครงการดิเอ็นเนอร์ยี่ 6 พันยูนิต ขายได้ 1.8 พันยูนิตในเดือน พ.ย.-ธ.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าเร็วมาก

           ขณะที่พัทยามีทั้งโครงการที่ค้างมา โครงการปรับปรุงใหม่ และเปิดตัวใหม่ เท่ากับจำนวนเมื่อช่วง 5 ปีย้อนหลัง ได้แก่ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์(LPN)เปิดโครงการใหม่ 1 พันยูนิต ทำให้ซัพพลายเพิ่มขึ้นมาก แต่เนื่องจาก LPN ขายในราคาไม่สูงมาก ทำให้มีการกระตุ้นกำลังซื้อ ผู้ที่ซื้อส่วนใหญ่กังวลกรุงเทพจะเจอปัญหาน้ำท่วม กับอีกกลุ่มเป็นลูกค้าต่างชาติ

           ส่วนโรงแรมระดับ 3-4 ดาวช่วงน้ำท่วมอัตราการเข้าพักในพัทยาและหัวหินพุ่งถึง 90% ขึ้นไป

           สำหรับเชียงใหม่ สมุย และ ภูเก็ต ไม่ได้รับผลดีจากน้ำท่วม เพราะอยู่ไกลจากกรุงเทพ ขณะที่ นครราชสีมา ไม่ใช่พื้นที่ของลูกค้าระดับกลางในกรุงเทพ จึงไม่ได้รับผลบวกเช่นกัน

ที่มา http://www.ryt9.com/s/iq03/1335761