อสังหาริมทรัพย์เมือง ‘พัทยา’ ปี 55 คึกคัก ตลาดฟื้นเร็ว มาแรง ท่องเที่ยวบูม |
bangkokbiznews.com อสังหาริมทรัพย์ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555
อสังหาฯ “พัทยา” คึกคัก
โดย : แสงวิทย์ เกวลีวงศ์ศธร
อสังหาฯ “พัทยา” คึกคัก ตลาดฟื้นเร็ว มาแรง โรงแรมทุ่มทุนรีโนเวท รับท่องเที่ยวบูม
เอเจนซี่ฟอร์เรียลเอสเตท ประเมินค่าความเสียหายในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากเหตุการณ์น้ำท่วม ส่งผลกระทบร้ายแรงที่สุดในรอบ 50 ปี ของไทย โดยสร้างความเสียหายในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กว่า 1.4 แสนล้านบาท และได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการ ต่างปรับทัพธุรกิจของตนเองโดยให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงในเรื่องโลเคชันมากขึ้น ก้าวรุกใหม่นี้เห็นได้จากการปรับตัวของกลุ่ม ศุภาลัย แสนสิริ และแอล.พี.เอ็น.
“อสังหาริมทรัพย์เมือง ‘พัทยา’ จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังโดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานหลายระลอก ทั้งวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งและวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์” นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) กล่าว
ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์เมืองพัทยาในขณะนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น แม้จะมีผู้ประกอบการหลายรายกระโดดมาลงทุนในพัทยาเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมองไม่เห็นถึงสัญญาณฟองสบู่ ทั้งนี้ ในช่วงปี 2551 สถานการณ์ดูเหมือนจะดีขึ้นหลังประสบวิกฤติปี 2540 แต่ก็ประสบกับวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์อีกครั้ง ทำให้อสังหาริมทรัพย์เมืองพัทยาชะลอตัว และเริ่มกลับมาฟื้นขึ้นในช่วงนี้
การกลับมาในของอสังหาฯ เมืองพัทยา ค่อนข้างแรง เนื่องจากเดิมเกิดภาวะโอเวอร์ดีมานด์ โดยเฉพาะในกลุ่มไฮเอนด์ ที่สนใจโครงการติดชายหาด ไม่ต้องข้ามถนน ซึ่งขณะนี้ พื้นที่ทำเลดังกล่าวมีน้อยลงๆ อย่างเช่น บริเวณหาดวงศ์อมาตย์ ซึ่งขณะนี้ ไม่มีพื้นที่พัฒนาโครงการ ส่วนบริเวณอื่นอย่างพัทยากลาง ก็ไม่สามารถพัฒนาได้ เนื่องจากมีถนนกั้นไว้ เหลือเพียงแต่บริเวณหาดจอมเทียนเท่านั้น
“โรงแรม-ท่องเที่ยวใหม่” ปรับโฉมพัทยา
นางสาวอลิวัสสา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันรูปแบบเมืองพัทยาเปลี่ยนไปมาก จากเดิมที่คนจะนึกถึงแต่สถานที่เที่ยวยามค่ำคืน แต่ในเวลานี้ มีโรงแรม 5 ดาวใหม่ มีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่อย่างไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ตลาดน้ำสี่ภาคพัทยา ซึ่งเปลี่ยนมิติใหม่ของการท่องเที่ยว แต่เมื่อเทียบกับหัวหินแล้ว พัทยามีพื้นที่ในการพัฒนาได้อีกมาก เนื่องจากหัวหินมีพื้นที่ติดทะเลน้อยกว่า สิ่งอำนวยความสะดวกยังอยู่ในวงแคบ ติดกฎหมายการสร้างตึกสูง
นอกจากนี้ แนวโน้มการซื้อบ้านหลังที่ 2 และบ้านพักตากอากาศของคนกรุงเทพฯ ยังมาแรง โดยพัทยาถือเป็นตัวเลือกที่อยู่อันดับต้นๆ และกลุ่มผู้ซื้อต่างจากทำเลหัวหิน เนื่องจากไลฟ์สไตล์ต่างกัน เดินทางสะดวก ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง
พัทยายังเป็นอีกทำเลหนึ่งในการซื้อบ้านหลังแรกของชาวต่างชาติและผู้ที่ทำงานในพื้นที่อีสเทิร์นซีบอร์ด ทั้งนี้ ตลาดอสังหาฯ เมืองพัทยายังมีช่องว่างตลาดอยู่ โดยเฉพาะตลาดที่พักอาศัยแนวราบ ยังเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ไม่มีซัพพลายรองรับ ขณะที่ที่ดินเมืองพัทยามีการปรับขึ้นเฉลี่ยปีละ 5-30% ขึ้นอยู่กับความได้เปรียบและการพัฒนาของแต่ละพื้นที่
“ทิวลิปกรุ๊ป” ทุ่ม 6 พันล้านผุดโรงแรม-เรสซิเดนซ์
นายโคบี เอลบาซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทิวลิป กรุ๊ป กล่าวว่า ทิวลิปกรุ๊ป ได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 6 พันล้านบาท ในการสร้างโครงการเซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนซ์ ซึ่งประกอบด้วย โรงแรม 5 ดาวและคอนโดมิเนียมสำหรับที่พักอาศัย บนพื้นที่ 20 ไร่ ติดชายหาดจอมเทียน
ทั้งนี้ ในส่วนของที่พักอาศัย “เซ็นทารา แกรนด์ เรสซิเดนซ์” นั้น ประกอบด้วย 2 อาคาร จำนวน 283 ยูนิต บริหารโดยเครือโรงแรมเซ็นทารา ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าเป็นระดับไฮเอนด์ที่กำลังมองหาที่พักระดับหรู มีความเป็นส่วนตัวและติดชายหาด ซึ่งมีกำหนดสร้างแล้วเสร็จในปี 2558
โครงการดังกล่าวเริ่มต้นการขายเมื่อกลางเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา และสามารถขายได้แล้ว 55 ยูนิตภายใน 2 วัน เป็นชาวไทย 60% และต่างชาติ 40% และเมื่อจำแนกตามการใช้งาน พบว่า ซื้อเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศและบ้านหลังที่สอง 55% ซื้อเพื่อการลงทุน 30% และซื้อเพื่ออยู่เอง ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ทั้งชาวไทยและต่างชาติ 15% ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท 110,000 บาทต่อตารางเมตร
แม้จะเกิดวิกฤติหนี้ยูโรโซน ทำให้ชาวต่างชาติซื้อที่พักอาศัยในไทยน้อยลง แต่ในพัทยายังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราะชาวต่างชาติที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซียระดับบนและกลาง นอกจากนี้ ยังมีออสเตรเลียซึ่งไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าวมากนัก
|