Home » แฟ้มข่าว อสังหาริมทรัพย์ » การประชุมใหญ่ นิติบุคคลอาคารชุดและหมู่บ้านจัดสรร : หลากหลายลีลา

การบริหาร/ความรู้ทั่วไป

Web Design by Softbiz+


ว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014

 
การประชุมใหญ่ นิติบุคคลอาคารชุดและหมู่บ้านจัดสรร : หลากหลายลีลา

  > อสังหาริมทรัพย์   [ ฉบับที่ 1070 ประจำวันที่ 3-2-2010  ถึง 5-2-2010 ]

หลากหลายลีลาประชุมใหญ่

โดยอาชีพบริหารทรัพย์สินมานาน 2-3 ทศวรรษ ผมผ่านประสบการณ์เข้าร่วมประชุมใหญ่หมู่บ้านจัดสรรและอาคารชุดมานับร้อยๆ โครงการ พบเห็นอะไรต่อมิอะไรมาพอสมควร บอกตรงๆ บางครั้งบางหนแสนจะเบื่อหน่าย แต่บางคราวหากพลาดสุดแสนจะเสียดาย

กล่าวถึงบรรยากาศแสนจะหลากหลาย เชื่อว่าคงผ่านหูผ่านตาการประชุมสภาผู้แทนราษฎรทั้งของไทยและเทศมาบ้าง โดยเฉพาะการตะโกนด่าทอหรือบางครั้งบางหนถึงขั้นวางมวย


การประชุมหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดฯ ก็ละม้ายคล้ายกันนั่นแหละ

ว่ากันว่า พฤติกรรมของคนเมื่อรวมกลุ่มกันหลายๆ คนขึ้นไปเป็นเรื่องที่น่าศึกษา โดยเฉพาะระดับปัญญาชน ไม่ว่าจะเป็นการสัมมนาหรือการประชุมเล็กใหญ่มักจะแบ่งได้สิบจำพวกใหญ่ๆ

ผมจะแจกแจงให้ดู

กลุ่มแรก เป็นพวก “
ชอบโต้แย้ง” ดีหรือไม่ดี ถูกหรือไม่ถูก ลองมีใครเสนอวาระเรื่องใดให้ที่ประชุมพิจารณา ขอคัดค้านเอาไว้ก่อน

กลุ่มที่สอง เป็นพวก “
ตะแบงเอาสีข้างเข้าถู” เหตุผลสู้เขาไม่ได้ก็ยังดื้อรั้นดันทุรังไม่รับฟังเหตุผลของผู้อื่น

กลุ่มที่สาม ประเภท “
กู่ไม่กลับ” พูดนอกเรื่องเขาพูดกันเรื่อง “น้ำ” พวกอภิปรายอย่างเมามันเรื่องการ “เล่นหุ้น” คนฟังก็นั่งเซ็งไปน่ะซี

กลุ่มที่สี่ พวก “
พูดมาก” พ่อจับไมค์โครโฟนได้ก็ครอบครองไว้อย่างเหนียวแน่น ไม่ยอมปล่อยให้ใครมาแย่ง หรือบรรยายแต่ละคราวก็มักจะพูดอย่างยืดยาว ชักแม่น้ำทั้งห้าเอามาหว่านล้อม และพูดจาอ้อมค้อมเสียหลายคุ้งหลายแคว และส่วนใหญ่มักจะมีแต่น้ำหาเนื้อไม่ค่อยเจอ กว่าจะสรุปวางไมค์ลงได้ทั้งคนฟังและคนพูดก็เหนื่อยไปตามๆ กัน

กลุ่มที่ห้า มีพฤติกรรมกลับกันกับกลุ่มที่สี่คือเป็นพวก “ไม่อยากพูด” หรือเป็นพวก “เตมีย์ใบ้” คนเหล่านี้จะว่าไปแล้วมักจะมี “ปมเขื่อง” ชอบวางมาดว่าข้านี่แหละโว้ย..เก่งเหนือใคร เผลอๆ อาจจะคิดว่าตัวเองเป็นเทวดาเอาน่ะ

กลุ่มที่หก พวก “
บ่อนแตก” เป็นมนุษย์เจ้าปัญหา เสนออะไรขึ้นมามักจะบอกว่า ทำทำไม ทำเพื่ออะไร ทำไม่ได้หรอก

กลุ่มที่เจ็ด จัดอยู่ในประเภท “
แหวกแนว” ชอบทำอะไรแผลงๆ หรือชอบพูดจาตลกโปกฮาเหมือนตลกคาเฟ่ นอกจากนั้นยังชอบทำตัวให้เป็นจุดเด่นหรือเป็นจุดสนใจของผู้อื่น

กลุ่มที่แปด เป็นพวก “
ศรศิลป์ไม่กินกัน” กลุ่มนี้ไม่ว่าจะเพิ่งพบกันเดี๋ยวนี้ หรือเข้าร่วมประชุมกันออกบ่อยกี่ทีๆ ก็ไม่อยากจะเห็นหน้าหรือเสวนาด้วยเอาเฉยๆ ยังงั้นแหละ ถามว่าเคยมีเรื่องมีราวกันมาก่อนแต่ปางใดก็ตอบไม่ได้เพราะไม่เคยมี ประเภทนี้ในสภาผู้แทนราษฎรและหลายๆ สมาคมมักจะพบเห็นออกบ่อย

กลุ่มที่เก้า จัดอยู่ในพวก “
สารพันปัญหา” เป็นยายแก่เลยวัยหมดประจำเดือน ชอบบ่นหยุมหยิม ชอบสร้างแต่ไม่นิยมชมชอบในการแก้ไขปัญหา

กลุ่มที่สิบ เป็นพวก “
ขันอาสาเฉพาะในวง” ไม่ว่าจะเป็นการประชุมหรือสัมมนา กลุ่มนี้มักจะยกมือเสนอตัวเองเป็นผู้รับดำเนินการเอาหน้าไว้ก่อน ส่วนผลการปฏิบัติจริงๆ นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่าได้หลงดีใจเชียวว่าเขาจะเอามาปะปนกัน

ว่ามาทั้งสิบพวกข้างต้น ยังไม่ร้ายแรงเท่าอีกกลุ่มที่ยังไม่ได้กล่าวถึง นั่นก็คือพวก “
พูดขาวให้เป็นดำ” หรือ “พูดดำให้เป็นขาว” นับเป็นพวกอันตรายคบหาสมาคมเป็นเพื่อนด้วยไม่ได้ ควรจะหลีกหนีให้ไกล เพราะบุคคลที่จัดอยู่จำพวกนี้มักจะมีพรสวรรค์ในการพูด ประกอบกับลีลาท่าทางรวมทั้งการแอบอ้างตัวเลขข้อมูลที่น่าเชื่อถือเสียด้วยซี

กลุ่มสุดท้ายนี่พบเห็นบ่อยในจอทีวี โดยเฉพาะในช่วงที่มีประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็น ส.ส.ฝ่ายค้าน ฝีปากแก่กล้าใช้สภาเป็นที่หาเสียงโจมตีฝ่ายตรงข้ามให้เกิดความเสียหาย โดยใช้สีและโคลนป้ายอย่างไม่ละอายผีสางเทวดา..!!

ที่มา http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413342888